“อภิสิทธิ์”ท้า“ปู”รับซื้อยางจากเกษตรกร

เมื่อวันที่ 4 ก.ย. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์การชุมนุมของชาวสวนยางว่า รู้สึกเป็นห่วงเพราะมีผู้ชุมนุมหลายกลุ่ม ข้อเรียกร้องก็อาจไม่ตรงกัน ถือเป็นการตอกย้ำว่าการชุมนุมไม่ได้เป็นเรื่องการเมืองเพราะค่อนข้างมีปัญหาเรื่องความเป็นเอกภาพ และไม่เห็นว่าสถานการณ์จะคลี่คลายลงไปได้ และยังให้ข่าวดิสเครดิตผู้ชุมนุม อีกหน่อยคงใช้กลยุทธ์ใหม่คือไม่สนใจแก้ปัญหา

เพราะเป็นคนภาคใต้ แต่ยืนยันได้ว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับฐานเสียงของฝ่ายค้าน เพราะคนที่เดือดร้อนมีคนในภาคเหนือและอีสานด้วย

เชื่อได้ว่าการที่รัฐบาลไม่สนใจแก้ปัญหาจะไม่ทำให้เกษตรกรยุติการชุมนุมไปเอง ตนไม่อยากเห็นการแย่งแยกประเทศและประชาชนไปมากกว่านี้ เพราะประเทศจะเดินหน้าไปไม่ได้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า ที่สำคัญมติครม.ที่ออกมาไม่ตรงกับข้อเรียกร้องของผู้ชุมนุม และยิ่งตอกย้ำเข้าไปอีกคือ ที่ประชุมครม.ยังทุ่มเงินลงไปเพื่อยืนราคาจำนำข้าวอยู่ 15,000 บาทต่อตัน

ถือว่ากำลังเพิ่มความแตกแยกในสังคม แบ่งแยกประชาชน รัฐบาลควรส่งคนที่มีอำนาจในการไปพูดคุยกับกลุ่มผู้ชุมนุมเพื่อคลี่คลายสถานการณ์ และสิ่งแรกที่รัฐบาลต้องทำคือประเมินสถานการณ์ในตลาดโลก สต็อกของรัฐบาล และเริ่มเจรจากับต่างประเทศ แต่ถ้ายังแก้ปัญหาในระยะสั้นไม่ได้ ก็ควรใช้การประกันรายได้หรือชดเชยให้เกษตรกรเป็นการเฉพาะหน้าไปก่อน

“การที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีบอกว่าประเทศจีนจะซื้อข้าวและยางเท่านั้นเท่านี้ แต่ที่ผ่านมา ตรวจสอบไปทีไร ก็เหมือนกับเป็นข้อตกลงกว้างๆไปก่อน จึงคิดว่า ถ้ามั่นใจว่าสามารถระบายสต็อก และขายยางได้ ก็น่าจะช่วยรับซื้อในราคาที่ชาวสวนยางต้องการได้ อย่างไรก็ตามที่ผ่านมานายกรัฐมนตรี พูดจาได้สับสนมาก บอกว่าเราปลูกยางน้อย เราไม่สามารถทำอะไรได้ ซึ่งมันขัดกับข้อเท็จจริงทั้งหมด”นายอภิสิทธิ์ กล่าว