เมื่อวันที่ 3 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานภารกิจของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ในการเดินทางไปนครหนานหนิง สาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อเข้าร่วมงาน China ASEAN EXPO ครั้งที่ 10 ระหว่างวันที่ 2-3 ก.ย.ว่า เมื่อเวลา 08.50 น. ตามเวลาท้องถิ่น นายกรัฐมนตรี เยี่ยมชมงานภายในศูนย์การประชุมและแสดงสินค้านานาชาติหนานหนิง ก่อนเข้าร่วมพิธีเปิดและกล่าวสุนทรพจน์ในงาน China – ASEAN Expo และงาน China – ASEAN Business and Investment Summit/CABIS ก่อนเดินทางกลับถึงประเทศไทยในเวลา 13.40 น.
โดยทาง นายหลี่ เค่อ เฉียง นายกรัฐมนตรีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน บอกว่า สนใจยางพาราของไทย เพราะจีนมีความต้องการยางพารา เพื่อมาพัฒนาสินค้าอุตสาหกรรมอื่นๆ จึงจะมอบหมายให้มีการประสานงานกับภาคเอกชนในการเจรจากับไทยต่อไป ขณะเดียวกันนายกรัฐมนตรียังได้ชักชวนให้จีนเข้ามาร่วมลงทุนในโครงการ Rubber City ของไทย โดยเห็นว่าจีนมีเทคโนโลยีการแปรรูปยางพาราที่ก้าวหน้า ซึ่งนายกรัฐมนตรีจีนตอบรับ เพราะเห็นว่าจะเป็นประโยชน์ต่อทั้งสองประเทศ
นายธีรัตถ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ นายโภคิน พลกุล นายกสมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-จีน ซึ่งร่วมคณะเดินทางไปด้วย ได้พาประธานบริษัทรับเบอร์วัลเลย์ ซึ่งเป็นบริษัทยางพาราที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในจีน เข้าพบหารือกับนายกรัฐมนตรี โดยภาคเอกชนของจีนกล่าวว่าปัจจุบันกำลังการผลิตยางพาราทั่วโลกมีประมาณ 10 ล้านตัน เฉพาะจีนประเทศเดียวมีความต้องการบริโภคยางพาราถึง 1 ใน 3 หรือประมาณ 3 ล้าน 5 แสนตัน ซึ่งเป็นปริมาณที่ใกล้เคียงกับที่ประเทศไทยผลิตได้
ดังนั้นถ้าไทยกับจีนจับมือเป็นพันธมิตรด้านอุตสาหกรรมยางพาราแล้ว จะยิ่งเป็นประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่าย เพราะไทยในฐานะเป็นผู้ผลิตยางพาราต้นน้ำ สามารถที่จะทำงานอย่างใกล้ชิดกับประเทศจีนที่นำยางพาราไปแปรรูปต่อได้
โดยนายกรัฐมนตรีได้ชักชวนให้เอกชนจีนเข้าไปลงทุนและนำเทคโนโลยีการแปรรูปยางพาราไปที่ประเทศไทย โดยไทยพร้อมให้สิทธิประโยชน์ด้านการลงทุน ขณะเดียวกันจีนอยู่ระหว่างการผลักดันให้การกำหนดราคายางพารามาจากประเทศผู้ผลิต ไม่ใช่เกิดจากตลาดซื้อขายล่วงหน้าในต่างประเทศซึ่งสร้างความผันผวนให้กับราคายางพารามาก