พนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 5 นัดสั่งคดี ที่ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง, นายสนธิ ลิ้มทองกุล, นายพิภพ ธงไชย, นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แกนนำ พธม., นายสมศักดิ์ โกศัยสุข อดีตแกนนำ พธม.,นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน และอดีตผู้ประสานงาน พธม., นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ แกนนำกลุ่มคนไทยรักชาติรักษาแผ่นดิน, นายอมร อมรรัตนานนท์ และนายเทิดภูมิ ใจดี แนวร่วม พธม. ตกเป็นผู้ต้องหาที่ 1-9 ในความผิดฐานร่วมกันเป็นกบฏ กระทำการให้ปรากฏด้วยวาจาให้ประชาชนละเมิดกฎหมายแผ่นดิน โดยมั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คน ขึ้นไป ซึ่งเจ้าพนักงานสั่งให้เลิกแล้วไม่เลิก ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 113 ,116, 215 และ 216 กรณีกลุ่มพันธมิตรฯได้ชุมนุมทางการเมืองเพื่อต่อต้านรัฐบาล เมื่อ ปี 2551
รับมอบอำนาจจากกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ได้เดินทางมายื่นคำร้องเพื่อขอเลื่อนนัดฟังการสั่งคดี เนื่องจากผู้ต้องหาติดภารกิจ ประกอบกับผู้ต้องหาที่เป็นแกนนำ พธม.ถูกยื่นฟ้องคดีอื่นอีกหลายคดี ซึ่งเป็นภาระในการหาหลักทรัพย์มาประกันตัว
ซึ่งเจ้าพนักงานสั่งให้เลิกแล้วไม่เลิก มาตรา 215 และ 216 ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมหลักทรัพย์เพื่อใช้ประกันตัวหากนัดส่งตัวฟ้องศาล อย่างไรก็ตามยังติดปัญหาหลักทรัพย์ คาดว่านัดหน้าอาจจะต้องขอเลื่อนนัดอีกครั้ง
ตามกฎหมายระวางโทษประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิต , มาตรา 116 ฐานร่วมกันกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือ หรือวิธีการอื่นใดอันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริตเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนในกฎหมายแผ่นดินหรือรัฐบาลโดยใช้กำลังข่มขืนใจหรือใช้กำลังประทุษร้ายเพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักรหรือเพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน วางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี
โดยมีอาวุธ เป็นหัวหน้าหรือเป็นผู้มีหน้าที่สั่งการ ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือ ปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรั้บ และมาตรา 216 ฐานเจ้าพนักงานสั่งให้เลิกไปแต่ไม่เลิก ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ