"อภิสิทธิ์"จวกรัฐทิ้งชาวสวนยาง อย่าอ้างราคาตลาดโลก ด้าน องอาจ แนะสภาถกปัญหาชาวสวนยาง ดีกว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์กรณีที่รัฐบาลไม่ช่วยเหลือพยุงราคายางพาราว่า ตนไม่อยากให้รัฐบาลเพิกเฉยความรู้สึกประชาชน ทั้งที่รัฐมนตรีในรัฐบาลก็เติบโตมาจากสวนยางพารา ที่ผ่านมามีการสัญญากับเกษตรกรว่าจะทำให้ราคายางพาราถึงกิโลกรัมละ 120 บาท
แต่ขณะนี้ก็ทำไม่ได้แล้วจนกระทบความเป็นอยู่เกษตรกรชาวสวนยางอย่างมาก ซึ่งอย่าลืมว่ารายได้ชาวสวนยางขณะนี้เมื่อเทียบกับรัฐบาลชุดที่แล้ว เหลือเพียง 1 ใน3 เท่านั้น อีกทั้งยังมีปัญหาค่าครองชีพที่สูงขึ้น
จึงถือว่ารัฐบาลซ้ำเติมประชาชน ส่วนการที่รัฐบาลอ้างว่าราคาตลาดโลกอยู่ที่กิโลกรัมละ 70บาท จึงไม่แทรกแซงราคานั้น ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง รัฐบาลคงไม่ทบทวนเรื่องดังกล่าวตั้งแต่ต้น ซึ่งสมัยที่ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เป็นรมช.เกษตรและสหกรณ์ ก็แทรกแซงราคายางพารา แต่วันนี้รัฐบาลทิ้งความรับผิดชอบไม่ได้ ทั้งนี้ตนสงสัยว่าเหตุใดผลผลิตการเกษตรอื่น เช่น ข้าว ข้าวโพด และมันสำปะหลัง รัฐบาลมีมาตรการรับจำนำได้ แต่ทำไมยางพารากลับไม่ช่วยเหลืออะไร
ซึ่งไม่ทราบว่าเหตุใดรัฐบาลต้องเลือกปฏิบัติกับชาวสวนยาง รวมทั้ง คนที่เป็นเจ้าของสวนยางในพื้นที่ต่างๆ ทั้งส.ส. แกนนำรัฐบาลจะรู้สึกอย่างไรกับการที่รัฐบาลตัดสินใจทอดทิ้งประชาชน ซึ่งรัฐบาลต้องพูดคุยกับชาวสวนยางเพื่อทำให้ราคายางขยับขึ้น แต่การที่รัฐบาลประกาศไม่ช่วยเหลืออะไรจะทำให้สถานการณ์ตึงเครียดมากขึ้น
ด้าน นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า ในสัปดาห์หน้า รัฐสภาจะมีการนัดประชุมในวันที่อังคาร 27 ส.ค. ถึงวันที่ 29 ส.ค.รวม 3 วัน
เพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับที่มา ส.ว.ต่อ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง น่าจะเปิดให้วันที่ 29 ส.ค.ประชุมสภาตามปกติ เพื่อที่จะได้พิจารณาปรึกษาหารือปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน โดยเฉพาะปัญหาของเกษตรกร เช่น ชาวสวนยางที่ออกมาชุมนุมเนื่องจากเดือดร้อนจากราคาตกต่ำ
ดังนั้นจึงขอเรียกร้องไปยังรัฐบาล โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรีที่บอกตลอดเวลาว่าจะใช้เวทีสภาในการแก้ไขปัญหา ให้มีการประชุมสภาตามปกติในวันพฤหัสบดีที่ 29 ส.ค.นี้
เพื่อที่จะได้หาทางออกให้กับเกษตรกร ซึ่งรัฐบาลจะต้องเร่งแก้ไขโดยด่วนก่อนที่จะมีการชุมนุมทั่วประเทศในวันที่ 3 ก.ย. นายองอาจ กล่าวอีกว่า สำหรับการแก้ไขรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับที่มาของ ส.ว.พรรคประชาธิปัตย์ได้แปรญัตติจำนวนหลายร้อยคน และยังไม่ได้อภิปรายอีกมาก เช่น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี
ซึ่งไม่สามารถจบได้ภายใน 2-3 วัน ดังนั้นรัฐบาลก็ยังมีเวลาอีกมากก็สามารถพิจารณาต่อในวันพุธในสัปดาห์ต่อๆไปได้หรือต้องการเร่งให้เสร็จที่ทุกคนเข้าใจกัน ทั้งนี้พรรคก็จะทำหน้าที่ชี้แจงให้ประชาชนเห็นว่าการแก้รัฐธรรมนูญนี้จะนำไปสู่ปัญหาทางการเมืองไทย เพราะอำนาจหน้าที่ของ ส.ว.จะถูกเบี่ยงเบนไป
โดยเฉพาะหน้าที่สำคัญคือการแต่งตั้งองค์กรอิสระ และถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ดังนั้นการตรวจสอบ ถ่วงดุล หรือการรักษาความเป็นกลางจะมีปัญหาอย่างแน่นอนจึงทำให้เราได้แปรญัตติ และคัดค้านในการแก้ไขเรื่องนี้