เมื่อวันที่ 22ส.ค.ที่รัฐสภา ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับการประชุมร่วมกันของรัฐสภา เพื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม ในประเด็นที่มา ส.ว. มาตรา 3 เกี่ยวกับที่มา ส.ว. ซึ่งให้มีเพียง ส.ว.เลือกตั้ง จำนวน 200 คน ซึ่งบรรยากาศตรึงเครียดเป็นระยะ มีการกระทบกระทั่งตลอด
นายวิชาญ ศิริชัยเอกวัฒน์ ส.ว.สรรหา อภิปรายว่า ไม่เห็นด้วยกับร่างแก้ไขของคณะกรรมาธิการที่จะให้มีส.ว.200 คน จะขอให้คงไว้เท่าเดิม 150 คน และเห็นด้วยที่จะให้ ส.ว.มาจากการเลือกตั้งทั้งหมด แต่ต้องแบ่งเป็น 2 ประเภท ดังนี้ ประเภทที่ 1 แบบเขตเลือกตั้ง ให้ใช้เขตจังหวัด 1 จังหวัดมี 1 คน ไม่มีความจำเป็นที่ 1 จังหวัดจะต้องมีมากเท่าส.ส. เพราะส.ว.มีอำนาจหน้าที่ต่างจาก ส.ส.ไม่ต้องไปใกล้ชิดกับประชาชนเหมือนกับ ส.ส. ส่วนประเภทที่ 2 เลือกตั้งจากสาขาอาชีพต่างๆ เพื่อทดแทน ส.ว.สรรหา โดยให้ขึ้นทะเบียนที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) และให้ประชาชนมาเลือก เพื่อให้สาขาอาชีพได้เลือกตัวแทนอาชีพของตนเข้ามาทำงานในสภา จะได้เชี่ยวชาญในเรื่องต่างๆได้ดี
นายประสงค์ นุรักษ์ ส.ว.สรรหา กล่าวว่า ตนอยากเห็นประเทศไทย มี ส.ว. 2 ประเภท ทั้งเลือกตั้ง และ สรรหา โดย ส.ว.สรรหา ไม่ได้เป็นโทษอย่างที่ถูกกล่าวหา แม้การแก้ไขเรื่องนี้ตนจะมีส่วนได้ส่วนเสียแต่ยืนยันว่าไม่ว่าจะถูกไล่ออกหรืออยู่จนครบวาระ จะไม่ขอกลับเข้ามาในฐานะ ส.ว.อีก ทั้งนี้ยืนยันว่าการที่ตนได้เป็นส.ว.สรรหาเพราะความรู้ ความสามารถ ไม่ได้เป็นเพราะรู้จักใครคนใดคนหนึ่ง
“วุฒิสภาไม่ควรมีพื้นฐานการเมืองเดียวกับฝ่ายบริหาร และวุฒิสภา มาจากการสรรหาทำงาน 5 ปี ที่ผ่านมาได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างมีคุณภาพ เป็นที่พอใจประชาชน ดังนั้นหากจะแก้ไขให้ ส.ว.มาจากการเลือกตั้งอย่างเดียวก็ไม่จำเป็นต้องมีวุฒิสภาอีกต่อไป ที่ผ่านมามีหลายคนขอให้ชะลอการแก้ไขรัฐธรรมนูญนี้ออกไปเพราะไม่อยากให้ส.ว.มาจากการเลือกตั้งทั้งหมด”นายประสงค์ กล่าว
เมื่อพูดถึงช่วงนี้ทำให้นายพรศักดิ์ เจริญประเสริฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นประท้วงว่า ไม่อยากให้อ้างคนไม่กี่คนที่มาขอชะลอ การแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ขอให้ดูผลสำรวจของกรุงเทพโพล ร้อยละ59 ต้องการให้วุฒิสภามาจากการเลือกตั้ง ซึ่งนายประสงค์ ไม่ได้สนใจ พร้อมอภิปรายต่อว่า ขอสาปแช่งคนที่เจตนาไม่บริสุทธิ์ในการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญในส่วนที่มาของ ส.ว. และเห็นว่า ส.ว.สรรหามีประโยชน์ เหมือนกับนาฬิกาที่ไม่เสียจะซ่อมทำไม
ทำให้นายสุนัย จุลพงศธร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นประท้วงว่า ตนเป็นคนหนึ่งที่เสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ และเห็นว่าไม่ถูกต้องที่มาสาปแช่งคนเสนอแก้ไข ตนรู้ว่าที่นายประสงค์ได้เป็นส.ว.นั้นได้มาเพราะอะไร ทำให้นายประสงค์ ชี้แจงว่า ตนสาปแช่งคนที่มีเจตนาไม่สุจริต คนที่มีเจตนาดีก็ไม่ต้องเดือดร้อน และขอยืนยันว่า ต้องการเห็น ส.ว. มาจากการสรรหา ทำงานคู่กับ ส.ว.เลือกตั้ง จากประชาชนโดยตรง.