เมื่อวันที่ 18 ส.ค.ที่พรรคประชาธิปัตย์ น.ส.มัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า ตนได้เขียนจดหมายเปิดผนึกถึงน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม และกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) มีใจความว่า ดีเอสไอมีอำนาจด้านพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ เพื่อดูแลเว็บไซต์ที่หมิ่นสถาบัน-ความมั่นคง แต่ไม่คิดว่านายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ จะใช้อำนาจปกป้องดูแลบุคคลธรรมดา ที่มาเป็นนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้การกระทำความผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์นั้น เจ้าพนักงานต้องถามหรือต้องสืบให้เห็นเจตนาของผู้กระทำเสียก่อน หากพบคำชี้แจงว่าไม่มีเจตนา ก็ดำเนินคดีไม่ได้ แต่ถ้าพบคำชี้แจงและหลักฐานการลบโพสต์ ก็ต้องแจ้งการขึ้นขออภัยและทำใหม่เสียให้ถูก แต่ดีเอสไอยังตั้งธงว่าจะดำเนินคดี ซึ่งถือว่าปฏิบัติหน้าที่มิชอบ
น.ส.มัลลิกา กล่าวอีกว่า เรื่องเว็บหมิ่นสถาบันนั้น ตนได้ไปยื่นร้องต่อนายธาริตแล้ว 2 ครั้ง แต่ไม่ได้ถูกรับเข้าเป็นคดีพิเศษ
และกรณีที่เว็บไซต์เฟซบุ๊คนายพานทองแท้ ชินวัตรบุตรชายของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มีการตัดต่อภาพนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นั้น ถูกปล่อยไปอย่างนั้นใช่หรือไม่ อย่างไรก็ตาม เจ้าพนักงานจะทำหน้าที่ตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 74 ของข้าราชการที่ต้องเป็นกลางทางการเมืองและไม่นำอำนาจไปกลั่นแกล้งใคร ความเป็นธรรมควรเกิดขึ้นตั้งแต่กระบวนแรกของการกฏหมาย ไม่ใช่รอทุกอย่างไปกองที่ศาล เช่นนั้นแล้วประเทศจะมี ตำรวจ ดีเอสไอ อัยการ ไปเพื่ออะไร.