หลังเกิดรัฐประหาร นานาชาติไม่ยอมรับไทย ยืนยันเชิญ "โทนี แบลร์" มาไทยไม่มีค่าจ้าง
ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณพ.ศ.2557 วาระ2 เป็นวันที่ 2
ซึ่งได้เริ่มพิจารณามาตรา 5 สำนักนายกรัฐมนตรี วงเงิน 31,742 ล้านบาท นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ต่างประเทศ ชี้แจงว่า การเยือนต่างประเทศของนายกฯ นั้นเพื่อเจรจาให้มามาลงทุนค้าขายกับไทย หลังเกิดวิกฤติการเมืองมีรัฐบาลที่สั่งกระชับพื้นที่ จนประชาชนเสียชีวิต และสังคมโลกไม่ยอมรับ เป็นหน้าที่รัฐบาล และตนเองเป็นรมว.ต่างประเทศ ซึ่งการเลือกประเทศไม่ได้ หลับตาแล้วจิ้มอย่างที่กล่าวหา
แต่เลือกประเทศมีศักยภาพ อัตราการเจริญเติบโตภูมิภาค จีดีพีประมาณ 5-10% ใกล้กับไทย อาเซียน เช่นแอฟริกา หรือละตินอะเมริกาที่มีแหล่ง วัตถุดิบ น้ำมันแก๊ซธรรมชาติ
ซึ่ง ปตท.ไปลงทุน ถ่านหิน แหล่งประมง เพชร พลอย และดูว่าเขาต้องการอาหาร ที่จะไปขายด้วย ทั้งที่ผ่านมาการเดินทางไปยังต่างประเทศไม่เพียงพอ ยังไปหาความร่วมมือกับต่างประเทศ ไม่ยึดวิธี การทำงานเหมือนรัฐบาลที่ผ่านๆ มาไปประชุมเพียงแค่อย่างเดียว ซึ่งเป็นเรื่องง่ายๆ
นายสุรพงศ์ ยังชี้แจงกรณีที่พาดพิงการจัดปาฐกถา ผนึกกำลังสู้สู่อนาคตและเรียนรู้ร่วมกัน กล่าวหา ว่าจ่ายนายโทนี แบลร์ 20 ล้าบาท ตนเองเป็นคนจัดการ ไม่เสียเงินค่าจ้างนายโทนีแบลร์ แม้แต่บาทเดียว จ่ายเพียงแค่ค่าที่พัก และค่าเดินทาง เพราะเขามาให้ประสบการณ์ วิชาการ ดังนั้นการมากล่าวหาว่าใช้เงินฟุ่มเฟือยไม่ถูกต้อง