วันนี้ 9 ส.ค.56 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก
ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลอาญาอ่านคำสั่งไต่สวนชันสูตรพลิกศพผู้เสียชีวิต 6 ศพว่า ถูกเจ้าหน้าที่ยิงเสียชีวิตในวัดปทุมวนารามระหว่างเหตุการณ์กระชับพื้นที่ชุมนุมเมื่อวันที่ 19 พ.ค.53 ว่า ขั้นตอนนี้เรียกว่าขั้นตอนการไต่สวน ในกรณีที่มีผู้ไปร้องเรียนว่า มีการบาดเจ็บ สูญเสีย หรือเสียชีวิต จากการกระทำของเจ้าหน้าที่ ก็จะต้องมีการไต่สวน ซึ่งผู้ที่ไปร้องนั้น ศาลจะเรียกไปชี้แจง ซึ่งพยานส่วนใหญ่ที่ไปชี้แจงเป็นพยานฝ่ายผู้เสียหาย ส่วนพยานที่ถูกกล่าวหา คือ กองทัพบกแทบยังไม่ได้เข้าไปชี้แจงเพราะยังไม่ได้อยู่ในขั้นตอนตรงนั้น
วันนี้ที่ศาลท่านได้สรุปมา ตนไม่อยากเข้าไปก้าวล่วง เพราะเป็นการตัดสินโดยศาลอาญาในการไต่สวน
หลังจากนี้จะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม คือ การเข้าสู่กระบวนการฟ้องร้องต่อสู้ในการหาพยานหลักฐานมาต่อสู้กันอีก 3 ศาล จบเมื่อไรยังไม่รู้ และตนยืนยันอยู่เสมอว่า กองทัพบก ได้รับคำสั่งหรือสั่งการลงไปไม่เคยสั่งให้ไปทำร้ายใครทั้งสิ้น และยังไม่มีผู้ใต้บังคับบัญชาสักคนที่ยืนยันว่าเขายิงคนเสียชีวิต ทุกอย่างเป็นไปตามระบบการทำงานทั้งสิ้น และทำงานด้วยความ ตั้งใจที่จะทำให้สถานการณ์ลดระดับลงไปสู่เหตุการณ์ปกติ ขอให้มองเรื่องนี้ให้เป็นกระบวนการยุติธรรมดีกว่า ตนไม่อยากไปตอบโต้ในสื่อต่างๆให้วุ่นวาย ตนเป็นฝ่ายที่เคารพกฎหมาย บางครั้งตนต้องยอมเจ็บปวดเอง คือ การที่กองทัพบกถูกกล่าวหา และผู้ใต้บังคับบัญชาจะมองว่าผู้บังคับบัญชาไม่ดูแลเขา
“อยากเรียนว่า ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์กระชับพื้นที่เมื่อปี 53 จนถึงวันนี้ ทุกคนที่ปฎิบัติหน้าที่ ทุกคนที่ถูกเรียกไปสอบปากคำ ทุกคนที่บาดเจ็บ และสูญเสีย ทางกองทัพบกดูแลทั้งสิ้น เพียงแต่เราไม่ได้เสนอเป็นข่าวเท่านั้น เรามีคณะกรรมการ ฝ่ายกฎหมายดูแลเรื่องนี้อยู่ เราเอาสำนวนต่างๆมาดู และตรวจสอบทั้งหมด การจะไปให้การอะไรต่างๆต้องให้การในข้อเท็จจริง สิ่งต่างๆเหล่านี้เป็นกระบวนการ หากมีการกล่าวหาต้องว่ากันไปตามตัวบทกฎหมาย ถ้าเราไม่รู้จักว่า อะไรคืออะไร มันจะไปไม่ได้ และไม่สามารถที่จะแก้ปัญหาอะไรไม่ได้สักอย่าง สิ่งนั้นยังไม่จบเดี๋ยวก็เกิดขึ้นมาใหม่ เงื่อนไขตรงนี้ก็มีอีก แล้วจะอยู่กันอย่างไร ผมไม่รู้จะตอบกันอย่างไร แล้วอย่ามองว่า กองทัพบกเป็นจำเลย กองทัพบกไม่ใช่จำเลย“ผบ.ทบ. กล่าว