นายวันชัย รุจนวงศ์ อธิบดีอัยการฝ่ายต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีที่ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือ ดีเอสไอ ระบุว่า กำลังติดตามตัว นายวัฒนา อัศวเหม จำเลยในคดีทุจริตขายที่ดินคลองด่าน จ.สมุทรปราการ ให้กรมควบคุมมลพิษ ใช้ก่อสร้างเป็นโครงการบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งสั่งจำคุก 10 ปี เมื่อปี 2551 และถูกออกหมายจับไว้และยังเป็นผู้ต้องหาบุกรุกออกเอกสารสิทธิโดยมิชอบใน อ.กะปง จ.พังงา
โดยล่าสุดมีภาพถ่ายคู่กับ นายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม ลูกชาย และ น.ส.เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ์ ที่มาเก๊า ว่า ในส่วนของพนักงานอัยการ ยังไม่เห็นภาพถ่ายที่ปรากฏเป็นข่าวและยังไม่ได้รับการประสานข้อมูลใดๆ จากกรมสอบสวนคดีพิเศษ ซึ่งพนักงานอัยการเอง ก็ไม่มีอำนาจเรียก นายชนม์สวัสดิ์ และ น.ส.เจนี่ นั้นมาสอบถามถึงที่อยู่ของจำเลย แต่เป็นหน้าที่โดยตรงของพนักงานสอบสวน หากพนักงานสอบสวน หรือทางกระทรวงการต่างประเทศจะแจ้งที่อยู่จำเลยที่แน่ชัดให้อัยการทราบ เราก็จะเร่งดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป หากทราบที่อยู่กว้างๆ ไม่ทราบพิกัดที่ชัดเจนก็ติดตามจับตัวได้ยาก
ดังนั้น ในการติดตามตัว ก็ต้องมีข้อมูลยืนยันว่า นายวัฒนา พำนักอยู่ในมาเก๊าจริง และยังอาศัยอยู่เป็นเวลานาน นอกจากนี้ การติดตามตัวจำเลยต้องพิจารณาว่า แต่ละประเทศที่ระบุว่าจำเลยพำนักอยู่ มีกฎหมายในการส่งตัวหรือไม่ ซึ่งไทยกับมาเก๊า ไม่มีสนธิสัญญาส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน และไม่เคยประสานขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน