“กปท.” ดูมวลชน ถึงวันที่ 10 ส.ค. หลังพ้น พ.ร.บ.มั่นคงฯ ก่อนกำหนดท่าที ติง ปชป. เล่นการเมืองมากเกินไป เดินเกม พลาด พาคนไปปล่อยหน้าสภาฯ
นายไทกร พลสุวรรณ เสนาธิการร่วมกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ (กปท.) กล่าวถึงกรณีที่ นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ระบุว่า กปท.และพรรคประชาธิปัตย์ ไม่สามารถล้มรัฐบาลได้ ว่า กปท.ไม่มีความต้องการล้มรัฐบาล แต่ต้องการล้มระบอบทักษิณ
ดังนั้น นายจตุพร ควรหยุดเป็นทาสของระบอบทักษิณได้แล้ว และควรหันหน้ามาช่วยประชาชนนำประเทศให้ก้าวผ่านจุดนี้ไปให้ได้
ส่วนกรณีที่นางธิดา ถาวรเศรษฐ์ ประธานนปช. เตรียมทำหนังสือชี้แจง ข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชน สหประชาชาติและองค์กรฮิวแมนไรท์วอชท์ ( Human Right Watch ) เกี่ยวกับร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ว่า เรื่องนี้หน่วยงานดังกล่าวรับรู้ถึงเหตุการณ์ในเมืองไทยเป็นอย่างดี ในช่วงปี 2553 ที่ผ่านมา
หน่วยงานดังกล่าวไม่เห็นด้วยกับการที่รัฐบาลเสนอร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม เข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร และสิ่งที่นางธิดา กำลังทำถือเป็นการประจารกลุ่มคนเสื้อแดง รวมทั้งยังเป็นการทำลายภาพลักษณ์ของประเทศด้วย
นอกจากนี้ อยากเรียกร้องให้รัฐบาลรวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องปล่อยตัว ร.อ.ทรงกลด ชื่นชูผล หรือ “ผู้กองปูเค็ม” ออกมาใช้สิทธิเสรีภาพตามประชาธิปไตย อย่าละเมิดสิทธิความเป็นคนไทย และขอความเป็นธรรมให้กับผู้ชุมนุมด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อคืนวันที่ 6 ส.ค. ที่ผ่านมา ที่สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ได้เข้าหารือกับคณะเสนาธิการกองทัพประชาชนฯ ถึงแนวทางการเคลื่อนไหววันนี้ (7ส.ค.) คณะเสนาธิการฯได้ท้วงติงไป 1 ข้อ คือ ถ้าพรรคจะเข้าร่วมประชุมสภาฯ ก็ไม่ควรนำมวลชนไป
เพราะเมื่อสมาชิกพรรคเข้าไปแล้ว ประชาชนที่รวมตัวแยกอุรุพงษ์จะเคว้งคว้าง และกลายเป็นการชุมนุมไร้แกนนำ สุดท้ายมวลชนก็ถูกทอดทิ้ง
นอกจากนี้ คณะเสนาธิการฯยังประเมินว่า พรรคประชาธิปัตย์ใช้วิธีการที่ผิดพลาด เพราะผู้มาชุมนุมใช้หัวใจในการต่อสู้ แต่พรรคประชาธิปัตย์เล่นการเมืองมากเกินไป อย่าลืมว่าการเมืองไม่สามารถกำหนดยุทธศาสตร์มวลชนได้ จนสุดท้ายวันนี้ มวลชนมองว่าพรรคประชาธิปัตย์ไร้ความจริงใจ
แหล่งข่าวจากที่ประชุม เสนาธิการร่วม เปิดเผยว่า คณะเสนาธิการร่วม จะรอดูจำนวนมวลชนเข้ามาสมทบที่สวนลุมพินี ไปจนถึงวันที่ 10 ส.ค. ที่ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ จะหมดอายุ จากนั้นจะมีการประเมินสถานการณ์อีกครั้ง และในขณะนี้ก็ได้พยายามประสานไปยังแนวร่วมในต่างจังหวัดให้เข้าร่วมชุมนุมให้มากที่สุด