วันนี้ 21 ก.ค. 56 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต ส.ส.บัญชีรายชื่อและโฆษกพรรคประชาธิปัตย์
แถลงถึงปัญหาคุณภาพข้าวถุงที่มีสารปนเปื้อนจนส่งผลกระทบต่อประชาชนว่า ตนมีความไม่สบายใจเพราะเมื่อเช้าวันนี้ (21 ก.ค.) มีรายงานข่าวว่า เจ้าหน้าที่กรมวิชาการเกษตรออกมาระบุว่า ข้าวถุงยี่ห้อโคโค่ที่มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคและองค์การอาหารอ.ย.ตรวจพบว่ามีสารเมธิลโบรไมด์เกินกว่าค่ามาตรฐานนั้น ทางกรมวิชาการเกษตรตรวจไม่พบว่ามีสารเมธิลโบไมด์ตกค้่างเกินค่ามาตรฐานเหมือนที่มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคและสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อ.ย.)ออกมาระบุ
ซึ่งจากผลสำรวจความเห็นประชาชนของสำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ
ก็ระบุว่าให้ความเชื่อถือผลตรวจสอบของภาคประชาชนมากกว่าหน่วยงานรัฐ แสดงว่าประชาชนเริ่มไม่ให้ความเชื่อถือต่อรัฐบาลแล้ว เนื่องจากรัฐบาลทำลายเครดิตตัวเองด้วยผลงานของตัวเองจากการปกปิดหมกเม็ดปัญหาตั้งแต่เรื่องการคอร์รัปชั่นในโครงการจำนำข้าวแต่รัฐบาลพยายามปกปิดแผล โดยอ้างว่าไม่มีการทุจริต
ต่อมาการขาดทุนมหาศาลในโครงการดังกล่าว ซึ่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
ไม่ได้ตรวจสอบปัญหาการขาดทุนแต่กลับไปตรวจสอบคือที่เปิดเผยข้อมูลคือ น.ส. สุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลัง ทำให้คนหมดศรัทธาในตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ซึ่งนายกฯ ต้องพิจารณาตัวเอง และแม้วันนี้กรมวิชาการเกษตรจะออกมาระบุว่าข้าวถุงมีความปลอดภัย คนก็อาจจะไม่เชื่อถือ
ดังนั้นแทนที่ น.ส. ยิ่งลักษณ์จะเดินสายชิมข้าวโชว์แต่ควรดำเนินการ 5 ประการ ดังนี้
1. ควรให้ภาคประชาชนเข้าร่วมตรวจสอบคุณภาพข้าวกับหน่วยงานต่าง ๆ ของรัฐ 2. ให้หน่วยงานอิสระไปตรวจสอบสต๊อกข้าวที่เหลืออยู่ของรัฐบาลทั่วประเทศ 3. ร่วมกันตรวจสอบคุณภาพข้าวในโรงสีที่มีรายงานว่ามีมากกว่า 20 ล้านตัน 4. เปิดเผยการระบายข้าวอย่างตรงไปตรงมาให้ประชาชนรับทราบ และ 5. เปิดเผยรายละเอียดการขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐให้ประชาชนรับทราบ เพราะคนรู้กันทั้งประเทศว่าเป็นการการขายระหว่างรัฐบาลกับพ่อค้าที่ใกล้ชิดกับรัฐบาลเท่านั้น เพราะประชาชนไม่ไว้ใจที่รัฐบาลจะตรวจสอบกันเอง แต่เชื่อมั่นที่จะให้ภาคประชาชนเข้าไปมีส่วนร่วมตรวจสอบด้วย