พันธมิตรฯเมิน รบ.สมานฉันท์ จวกทักษิณบ้าไปแล้ว
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 26 มีนาคม 2549 23:51 น.
พันธมิตรฯ เมินร่วมรัฐบาลแห่งชาติ ระบุ ทักษิณบ้าไปแล้ว ไม่ร่วมผสมพันธุ์เด็ดขาด สนธิชี้ เป็นผลงานกดดันแบบอหิงสาจนทักษิณสติแตก ย้ำแนวทางชุมนุมโดยสันติ เหมือนรักษาโรคด้วยวิธีธรรมชาติ มหาจำลองแจงมอบพื้นที่ชุมนุมให้งานกาชาด ก่อนยึดชัยภูมิเหมาะสมที่สยามพารากอน 29 มี.ค. เชื่อมั่น ขับ แม้วได้แน่
เมื่อเวลาประมาณ 21.15 น. แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย 5 คน ได้ขึ้นเวทีปราศรัยเชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ ถนนราชดำเนินนอก โดยพล.ต.จำลอง ศรีเมือง กล่าวถึงการชุมนุมที่ยึดเยื้อมาหลายวัน ว่า ในแต่ละคืนไม่ใช่มีเฉพาะชาวบ้านเท่านั้น แต่มีเพื่อนข้าราชการทุกกระทรวง ทบวง กรม และตำรวจ ทหารทุกเหล่าทัพมานั่งชุมนุมด้วย ส่วนการเดินขบวนไปที่สยามพารากอนและเอ็มโพเรียมในช่วงกลางวันที่ผ่านมานั้น มีประชาชนทุกชนชั้นวรรณะ และขออภัยในความผิดพลาดที่เสนอให้หยุดการเดินขบวนไปที่เซ็นทรัลเวิลด์ เนื่องจากเห็นว่ามีแดดร้อนและผู้ชุมนุมมีความอ่อนเพลียหลังจากเดินมา 2 ชั่วโมง แกนนำพันธมิตรจึงเห็นว่าควรหยุดเพื่อออมแรงไว้ชุมนุมในวันที่ 29 มี.ค. ที่ประชุม ก็เห็นด้วย ซึ่งผิดจากที่เคยวางแผนไว้ว่าจะเดินไปถึงเอ็มโพเรียม
ทั้งนี้ ผู้ร่วมเดินขบวนส่วนหนึ่งยอมแยกย้ายไปพักรับประทานอาหาร แต่ส่วนหนึ่งไม่ยอมไป และได้ทราบว่าที่เอ็มโพเรียมมีพี่น้องรออยู่ประมาณ 2-3 หมื่นคน จึงตัดสินใจเอารถ 6 ล้อที่เป็นเวทีเคลื่อนที่ ขับพาแกนนำไปพบกับพี่น้องที่เอ็มโพเรียม แล้วหันกลับพูดกับพี่น้องที่อยู่ข้างหลังว่าอย่าตามไปเลยเพราะรถต้องวิ่งเร็ว เดี๋ยวจะเหนื่อยมาก แต่พอแล่นไปสักพักขบวนพี่น้องกลับตามไปยาวเหยียดไม่ยอมหยุด ส่วนคณะที่แยกไปก่อนหน้านี้มาบ่นเสียใจและด่ากลับมาที่ไม่ได้ไปร่วมชุมนุม จึงต้องขออภัยและให้คำมั่นว่าคราวหน้าจะไม่มีแบบนี้อีก จะเดินไปและกลับมาพร้อมกัน
พล.ต.จำลอง เปิดเผยว่า จากการที่ได้พูดคุยกับกองการจัดหารายได้ของสภากาชาดไทยได้แบ่งพื้นที่กันเรียบร้อย และอยากจะเปิดพื้นที่ที่พันธมิตรชุมนุมให้ทั้งหมด เพราะงานกาชาดเป็นงานสำคัญของบ้านเมือง นอกจากนั้น วันนี้ได้ไปเจอพื้นที่ที่เหมาะกับการจัดชุมนุม คือที่หน้าสยามพารากอน จึงเตรียมแจ้งต่อสภากาชาดว่า 29 มี.ค.นี้ ซึ่งเป็นวันเปิดงานกาชาด จะย้ายสถานที่ชุมนุมไปสยามพารากอน ตั้งแต่เวลา 17.00 น. ต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 31 มี.ค. การชุมนุมจะย้ายไปที่หน้าสยามพารากอนแทน เนื่องการจราจรสะดวก และสามารถอยู่ในร่มได้ตลอดกลางวันและกลางคืน จึงขอให้ผู้จะไปชุมนุมเตรียมลางานอีกสักครั้ง จะชุมนุมที่นั่นช่วงวันที่ 29 30 31 มีนาคม เชื่อมั่นว่าจะทำให้ทักษิณลาออก ส่วนกองทัพธรรมจะยังปักหลักอยู่ข้างทำเนียบเช่นเดิม ไม่ได้ถอนเต็นท์แต่อย่างใด
พล.ต.จำลอง กล่าวถึงกรณีที่ พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ จะดำเนินคดีกับผู้ชุมนุมว่า กองทัพธรรมที่ปักหลักกินนอนอยู่ที่ช่องจราจรหน้า กลต. และหน้าสถานทูตสหรัฐอเมริกามา 9 วัน มีการฟ้อง แต่เมื่อวันที่ 24 มี.ค. ที่ผ่านมา อัยการได้สั่งไม่ฟ้อง เนื่องจากเห็นว่าการชุมนุมทำได้ตามรัฐธรรมนูญ ฉะนั้น ฟ้องเราไม่ได้เด็ดขาด เพราะฉะนั้นกองทัพธรรมจะยังอยู่ที่เดิม
พล.ต.จำลอง กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงกลางวันที่ผ่านมา เราได้รับการต้อนรับอย่างดีจากพนักงานสยามพารากอน ดังนั้นจึงอยากฝากพี่น้องที่มีญาติพี่น้องทำงานที่นั่นช่วยไปขอบคุณพนักงานสยามพารากอน และขอบคุณ คุณศุภลักษณ์ อัมพุช และ ปริศนา อัมพุช เจ้าของห้างฯ ด้วย
ต่อมานายพิภพ ธงไชย ได้กล่าวถึงผู้ร่วมชุมนุมที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุเมื่อเช้ามืด คือ นายณรงค์ชัย ธารทอง อายุ 64 ปี จ.ศรีสะเกษว่า ทางพันธมิตรจะดูแลศพผู้เสียชีวิตอย่างสมเกียรติ โดยมอบเงิน 30,000 บาทช่วยเหลือทำศพ
ด้านนายสมศักดิ์ โกศัยสุข กล่าวว่า การเดินขบวนของพวกเรามาด้วยใจ สติปัญญาและรับผิดชอบแตกต่างจากการจ้างวานมา และนัดหมายให้พี่น้องไปที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เวลา 10.00 น. วันพรุ่งนี้ เพื่อไปแจ้งจับโจรปล้นแผ่นดิน ฐานใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ
นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ กล่าวว่า ตนเคยให้ฉายา กกต. ว่า แก๊งกวนตีน แต่วันนี้จะขอเปลี่ยนคำย่อ กกต.ว่า กอดกันตาย เนื่องจากกำลังออกอาการมาก ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ไปพูดที่วงเวียนใหญ่ว่าจะเชิญพรรคการเมืองที่ไม่ได้ลงเลือกตั้งและพันธมิตรฯไปเป็นรัฐมนตรี เพื่อตั้งรัฐบาลแห่งชาติ ซึ่งเป็นไปไม่ได้ เพราะว่าพันธมิตรจะไม่ผสมพันธุ์กับทักษิณแน่นอน
ต่อมานายสนธิ ลิ้มทองกุล กล่าวว่าพรุ่งนี้จะไปแสดงพลังที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไม่มีปราศรัย พร้อมกล่าวถึงการปราศรัยของพ.ต.ท.ทักษิณที่วงเวียนใหญ่เรื่องการตั้งรัฐบาลสมานฉันท์แห่งชาติว่า พ.ต.ท.ทักษิณเป็นคนบ้าไปแล้ว ซึ่งเป็นผลจากการชุมนุมของเครือข่ายพันธมิตร จนกระทั่งวันนี้ รู้ตัวเองว่าไปไม่รอด จึงเสนอตั้งรัฐบาลสมานฉันท์
นายสนธิได้ให้กำลังใจผู้ชุมนุมว่า อย่าไปคิดว่าการชุมนุมไม่มีผล พร้อมกับเล่าเส้นทางการชุมนุมครั้งแรกจนถึงปัจจุบันที่เกิดการเปลี่ยนแปลงจนยุบสภา โดยชี้ให้เห็นว่าเป็นเพราะพลังทุกคนที่มาชุมนุม อย่าประมาทอหิงสาเด็ดขาด อย่ามองพวกเราเป็นพวกยอมจำนน การรุกแบบอหิงสาเหมือนการรักษาตนเองด้วยวิธีธรรมชาติ คล้ายการรักษาโรคหวัด
เวลาเราเป็นหวัด เราเจ็บคอ มีคนบอกว่าฉีดยา 2 เข็มหาย ผมบอกว่าไม่ใช่ ผมชอบรักษาด้วยวิธีธรรมชาติ ไม่กินยาปฏิชีวนะ ไม่กินยาแก้หวัด แต่จะทานน้ำอุ่น น้ำขิง ใช้ยาสมุนไพร การรักษาแบบธรรมชาติหายแล้วหายเลย นายสนธิกล่าว
นายสนธิกล่าวต่อว่า มีบางคนแนะนำมาว่า ทำไมไม่เอาพวกชอบลุยอยู่ข้างหน้า แล้วเดินไปลุยที่สวนจตุจักร เปรียบเหมือนเป็นการฉีดยา 2 เข็มเพื่อให้หาย ตนไม่ต้องการ เพราะว่า เวลามีอารมณ์ พูดจาอะไรเวลาโกรธจะไม่ได้คิดถึงผลที่จะตามมาทีหลัง บทจะรักก็รัก บทจะเกลียดก็เกลียดมาก เวลาจะรักก็ไม่ได้ใช้หัวสมอง เหมือนผู้หญิงที่ชอบผู้ชายเพราะมันหล่ออย่างเดียวหรือไม่ การสู้แบบอหิงสาคือการสู้ที่วิเศษสุด ไม่ต้องการให้เลือดยางออก
นายสนธิ กล่าวในตอนท้ายว่า เราได้ใช้วิธีอหิงสามาเดือนกว่า ได้ผลจนนายกคนนี้ บ้าไปแล้ว เมื่อเรารบกับคนบ้า ในที่สุดคนบ้าก็จะถูกจับ เหมือนธรรมะต้องชนะอธรรม แม้แต่หลวงตามหาบัว ซึ่งเป็นพระอภิญญา ยังบอกว่า บุญมันหมดแล้ว ชีวิตไม่มีความเจริญแล้ว มีแต่จะตกนรก