ทักษิณ ยิ่งดิ้น.. ยิ่งเปิดเป้า

ถือเป็นประโยค คำพูดที่คนเฒ่า คนแก่ คอยพร่ำบ่นเพื่อเตือนสติและให้กำลังใจลูกหลาน ในการ ขยันทำมาหากิน ไม่ให้งอมืองอเท้ารอคอยปาฏิหาริย์ หรือโชคชะตาแบบลมๆ แล้งๆ และก็ดูเหมือนว่าชายหน้าเหลี่ยมที่ชื่อ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ก็กำลังพร่ำบ่นประโยคนี้อยู่ทุกเมื่อเชื่อวันเช่นกัน

ที่ล่าสุดอดีตนายกรัฐมนตรีผู้นี้จะใช้ช่องทางการสื่อสารผ่านเว็บไซต์ไฮ-ทักษิณ (www.hi-thaksin.net) เพื่อออดอ้อนบรรดาสาวก ที่ยังคงจงรักภักดีในระบอบทักษิณ และยังสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการปั่นประสาทคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) และรัฐบาลขิงแก่ ให้อกสั่นขวัญผวาได้อีกทางหนึ่งด้วย

ผ่านเว็บไซต์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ในครั้งนี้ เท่ากับเป็นการดิสเครดิต คมช.และรัฐบาลขิงแก่ โดยตรง ด้วยการหยิบยกเรื่องทุนการศึกษาของนักเรียนที่ได้รับทุนไปเรียนต่อในต่างประเทศ แต่ต้องถูกปล่อยลอยแพ อันเนื่องมาจากรัฐบาลชุดปัจจุบันไม่ให้ การสนับสนุน เพราะรังเกียจเดียดฉันท์ว่า เป็นเงินที่มาจากหวยบนดิน

พ.ต.ท.ทักษิณ ออกตัวล้อฟรี เพื่อแสดงตนเป็น พ่อพระ ด้วยการยื่นมือเข้าไปโอบอุ้มนักเรียนทุนเหล่านี้ผ่านทาง มูลนิธิไทยคม เสมือนหนึ่งเป็นการตบหน้ารัฐบาลชุดปัจจุบันอย่างไรอย่างนั้น และทันทีที่เว็บไซต์นี้โผล่แพลมออกมา แทน ที่รัฐบาล หรือคมช.จะรีบชี้แจงว่าข้อมูลที่ พ.ต.ท. ทักษิณ กล่าวอ้างมานั้น ไม่เป็นความจริง เพราะใน ช่วงเวลาที่ผ่านมา ทางกระทรวง ฟ้อง พจมาน-บรรณพจน์ เซ่นเว็บไซต์ ศึกษาธิการได้เข้าไปดูแลเรื่องนี้อย่างเต็มที่

โดยให้เหตุผลเพียงสั้นๆ ว่า อะไรก็แล้วแต่ที่สร้างความขัดแย้งทางความคิดของประชาชน คมช. จะต้องดำเนินการ โดยเฉพาะสถานการณ์ในขณะนี้ ไม่เหมาะสมที่จะรับฟังความคิดเห็นของ กลุ่มอำนาจเก่า เพราะเป็นต้นเหตุของความขัดแย้ง

ยังคงหวาดระแวงการเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่ไม่ใช่น้อย ดังนั้น จึงไม่ใช่เรื่อง แปลกที่ คมช.จะไม่อนุญาตให้กลุ่มการเมืองใดๆ ออกเดินสายลงพื้นที่เพื่อพบปะประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มการเมืองที่แตกทัพมาจากพรรคไทย รักไทยนั้นจะถูกจับตามองเป็นพิเศษ

ภายหลังจากที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ออกมาเคลื่อนไหวทางเว็บไซต์เพียงไม่กี่วัน ก็ปรากฏว่า ทางสำนักงานอัยการ สูงสุด ได้มีความเห็นสั่งฟ้อง ภริยา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ และนางกาญจนาภา หงษ์เหิน ในความผิดฐานร่วมกันหลีกเลี่ยงการจ่ายภาษีอากรโดยเท็จ โดยฉ้อโกง และโดยอุบาย ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 37 (2)

เพื่อหลีกเลี่ยงการจ่ายภาษีหุ้น ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 37 (1) และความ ผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 และ 83 ซึ่งข้อกล่าวหาดังกล่าว มีความผิดต้องระวาง โทษจำคุกตั้งแต่ 3 เดือน ถึง 7 ปี และปรับตั้งแต่ 2,000 บาท ถึง 200,000 บาท ไม่เพียงเท่านั้น ทางคมช. ยังมีการเคลื่อน ไหวอย่างเงียบๆ เกี่ยวกับการเอกซเรย์ มูลนิธิไทยคม ตามที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีต

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก นสพ.สยามธุรกิจ