“ขอฝากบอกๆ ไปถึงนายสุรนันทน์ อย่ามาตีตัวเสมอ ในทางการเมือง ผมไม่เคยให้ราคา ไม่เคยอยู่ในสายตา ไม่เคยให้เกียรติ และไม่ให้ความสำคัญ ไม่ให้เครดิต มันคนละชั้นกัน ถ้าเสือกเดี๋ยวจะมีของแถม และไม่ต้องมาขอขมา ผมถือว่าผีไม่เผา เงาไม่เหยียบ ส่วนเด็กผู้หญิงสองคน คนหนึ่งชื่อสุ ผมเห็นเป็นลูกหลานไม่ได้คิดว่าจะมีอิทธิฤทธิ์อะไร นายสุรนันทน์ทำอะไรควรให้พอดี พอเหมาะ ถ้ามากไปเขาเรียกว่าเสือก ตอนหาเสียงไปอยู่อยู่ที่ไหน คิดว่าตัวเองมีความสำคัญอะไร ที่ผมพูดไม่ใช่ว่าถูกปรับแล้วน้อยอกน้อยใจ ผมย่อมมีสิทธิคิดเป็นธรรมดา” ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวด้วยอารมณ์โกรธ จนหน้าแดงก่ำ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ไปฮ่องกง ไปเที่ยวที่ไหนมาบ้าง ร.ต.อ.เฉลิมตอบว่า ไปเดินเที่ยวย่านจิมซาจุ่ย กับ พล.ต.อ.ภานุพงศ์ และบ่ายนี้จะเข้าผ่าต้อกระจกซึ่งคงไม่ได้เข้าร่วมประชุม ครม. วันที่ 9 ก.ค. โดยยังต้องลาพักฟื้นไปจนถึงวันที่ 11 ก.ค.
ร.ต.อ.เฉลิม ยังกล่าวถึงกรณีมีคลิปเสียงคล้ายเสียง พล.อ.ยุทธศักดิ์ สนทนากับ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า เป็นไปตามที่เคยเตือนแล้วว่าการเมืองจากนี้ไปจะอยู่ในโหมดความเข้มข้น พอตนวิเคราะห์ไปสื่อก็หาว่าตนน้อยใจ ซึ่งไม่ใช่ ตนเป็นคนประเภทรุกรบ ฮึกเหิม ห้าวหาญ และถ้าใครมองการเมืองว่าสงบถือว่าเก่งมาก เป็นหน้าที่ของรัฐบาลและผู้เกี่ยวข้องที่ต้องออกมาชี้แจง ส่วนจะสั่นคลอนรัฐบาลหรือไม่นั้นตนไม่รู้ เขาให้มาอยู่กระทรวงแรงงานจะไปรู้ได้อย่างไร พูดไปเดี๋ยวจะหาว่าอิจฉาริษยา ไม่รู้จักหน้าที่
ต่อมาเวลา 20.30 น.นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่า ไม่ได้มีเจตนาลบหลู่ ดูหมิ่น ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน ตนยังเคารพ ร.ต.อ.เฉลิมไม่เปลี่ยนแปลง คำพูดที่ ร.ต.อ.เฉลิมพูดออกมาในวันนี้เป็นเรื่องที่ผู้ใหญ่สั่งสอนเด็ก ตนพร้อมน้อมรับไว้ เพราะยังเคารพไม่มีเจตนาทำให้เสื่อมเสีย ทั้งนี้จะหาโอกาสไปขอโทษ ร.ต.อ.เฉลิม หวังว่าจะได้รับความเมตตา
“ผมยืนยันว่าไม่ได้ตั้งใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น วันนั้นผมและทีมงานไปทานอาหารและกินไอติมกัน ก็ไม่ได้ตั้งใจทำให้ท่านเสื่อมเสียหรือต้องการดูหมิ่น ดังนั้นผมต้องขออภัยมา ณ โอกาสนี้ที่ทำเหมือนเป็นการล่วงเกินท่าน เรื่องนี้ขอให้เป็นเรื่องของผมกับ ร.ต.อ.เฉลิม ไม่อยากให้ดึงนายกฯเข้ามาเกี่ยวข้องหรือทำให้นายกฯลำบากใจ”