กระแสเย็น แก๊งไอติม′ กระเทือนรบ.-กระทบเฉลิม? จับตา บิ๊กอ๊อด ภารกิจดับไฟใต้

ขวัญใจคอการเมืองอย่าง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ภายหลังถูกปรับให้รับหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ก็เกิด "แอ๊กชั่น" มากมายต่างๆ นานา

เริ่มตั้งแต่การออกมาแฉความขัดแย้งกับ "3 บิ๊ก" โดยเฉพาะ "บิ๊กวี" พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการ ศอ.บต.ที่ดูเหมือนจะไม่ลงลอยกว่าใครเพื่อน

การน้อยอกน้อยใจของ "บิ๊กเหลิม" ถือเป็นสิ่งที่คนในรัฐบาลเป็นห่วงอยู่พอสมควร ยิ่งเมื่อมีข่าวว่าจะลาออก ถึงกระนั้น ร.ต.อ.เฉลิมก็กลั้นใจเดินเข้าทำงานที่กระทรวงแรงงานจนได้ ทว่ายังไม่ทันไร

วัน แรกที่เข้ากระทรวงก็มีข่าวพาดหัวตัวโต โดยบอกว่าในรัฐบาลมี "แก๊งไอติม" คอยประจบให้ข้อมูลผิดๆ แก่นายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนัยยะว่า การที่ถูกปรับจากรองนายกฯ ก็เป็นฝีมือของ "แก๊งไอติม" ด้วยเช่นกัน

เรื่อง "แก๊งไอติม" ร้อนไปถึงนายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ซึ่งถือเป็นคนใกล้ชิดนายกฯ ต้องออกมาปัดข่าวโดยเร็ว โดยอธิบายว่า ร.ต.อ.เฉลิมเข้าใจผิด หากนายกฯจะมีทีมงานก็เป็นเรื่องธรรมดา

ไม่ทัน ไร ก็มีภาพ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ยืนชี้เหมือนกับกำลังด่าทอ ร.ต.อ.เฉลิม ในโรงแรมแห่งหนึ่งที่เกาะฮ่องกง ทราบภายหลังว่า ร.ต.อ.เฉลิมบินไปฮ่องกง เพื่อเคลียร์ใจ กรณีถูกปรับให้เป็นรัฐมนตรีแรงงาน ขณะที่ พ.ต.ท.ทักษิณก็ได้ตำหนิที่ ร.ต.อ.เฉลิมออกมาแสดงความไม่พอใจอย่างต่อเนื่องหลังจากปรับ ครม. แต่งานนี้เจ้าตัวออกมาปฏิเสธว่าไม่ได้ไป..

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าการออกมาแอ๊กชั่นของ "บิ๊กเหลิม" จะไม่ส่งผลกระทบต่อการทำงาน หรือเสถียรภาพความมั่นคงของรัฐบาลแต่อย่างใด ส่วนเรื่องแก๊งไอติมจะมีจริงหรือไม่นั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ทว่าเชื่อว่าคนใกล้ชิดระดับหัวสมองของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ มองการทำงานคนละมุมกับ ร.ต.อ.เฉลิม และคนในพรรคเพื่อไทยบางส่วน

ใน ขณะที่ ร.ต.อ.เฉลิมคิดว่าเมื่อไม่ได้เป็นรองนายกฯและใครจะเป็นกันชนให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ทว่าคนใกล้ตัวนายกฯกลับไม่อยากให้มีการพูดเรื่องการเมือง โต้ไปมาอย่างลูกปิงปอง ซึ่งจะส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของรัฐบาลและนายกฯเอง

ขณะ ที่ นายวรชัย เหมะ ส.ส.พท. สมุทรปราการ ระบุว่า ครม.ยิ่งลักษณ์ 5 ไม่มีคนที่ต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับพรรค พท.มาเลย มองดูแล้วมีแต่คนภายนอกเข้ามาทำงาน แต่คนในรัฐบาลกลับเห็นต่าง

ร.ต.อ. เฉลิมมักอ้างว่า ที่ผ่านมามีคะแนนการสำรวจโพลมาเป็นอันดับที่ 2 รองจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ แต่ลืมว่า ที่ผ่านมาในฐานะ ผอ.ศปก.กปต.เดินทางลงใต้เพียงครั้งเดียว และก็แสดงออกอย่างชัดแจ้งว่าไม่ต้องการทำหน้าที่ดังกล่าว

ยิ่งเมื่อ บวกกับการชอบออกมาปูดข่าวว่ามีเครือข่ายจ้องล้มรัฐบาลอักษรโน้น นี้ นั้น ...แล้ว ก็ยิ่งมองไม่เห็นว่าจะเกิดประโยชน์ต่อการทำงานของรัฐบาลแต่อย่างใด ยิ่ง "บิ๊กเหลิม" ออกมาแอ๊กชั่นมากเท่าไหร่ ก็ดูเหมือนเรื่องจะเข้าตัวมากเท่านั้น

สำหรับการกลับมาคุม งานมั่นคงของ "บิ๊ดอ๊อด" พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม น่าจับตาอย่างยิ่ง โดยเฉพาะภารกิจการ "ดับไฟใต้" ถึงแม้โดยตำแหน่ง พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง จะได้รับเก้าอี้ ผอ.ศปก.กปต. รับไม้ต่อ ร.ต.อ.เฉลิม

แต่ยังไม่มีคำสั่งหรือการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ว่าใครที่ต้องคุมงานใต้ โดยเฉพาะในตำแหน่ง "ผอ.ศปก.กปต." ที่จะทำหน้าที่ขับเคลื่อนกลุ่มงานใน 6 กลุ่มงาน

อาทิ 1.การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอาชีพ โดยมีกระทรวงมหาดไทยเป็นผู้รับผิดชอบ

2.การพัฒนาด้านการศึกษา โดยมีศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.)
เป็นผู้รับผิดชอบ

3.การรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินและปัญหาภัยแทรกซ้อน โดยมีกระทรวงกลาโหมเป็นผู้รับผิดชอบ

4.การอำนวยความเป็นยุติธรรม โดยมีการกระทรวงยุติธรรมเป็นผู้รับผิดชอบ

5.การเสริมสร้างสิทธิมนุษยชนและเสริมสร้างความเข้าใจ โดยมีกระทรวงการต่างประเทศเป็นผู้รับผิดชอบ

6.สร้างสภาวะแวดล้อมที่เอื้อต่อการพูดคุยเพื่อสันติ โดยมีสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เป็นผู้รับผิดชอบ

เพราะงานทั้ง หมด ต้องส่งตรงไปยังที่ประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์การแก้ไข ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กปต.) ที่มี น.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นประธานในทุกเดือน เพื่อติดตามความคืบหน้าว่างานเดินหน้าไปทิศทางใด

ส่วนการพูดคุยกับ กลุ่มบีอาร์เอ็นเพื่อสันติในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ก็ยังไม่มีอะไรที่ชัดเจน เหมือนพายเรืออยู่ในอ่าง กลายเป็น "หอก" กลับมาทำร้าย "รัฐบาล" เอง..

ดังนั้น ตำแหน่ง "ผอ.ศปก.กปต." จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง

ผู้ ที่มานั่งเก้าอี้นี้ ต้องมีบารมีไม่น้อยที่จะคุมหน่วยงาน "พลเรือน ตำรวจ ทหาร" ให้ขับเคลื่อนสนองนโยบายให้ได้ 100% ทั้งนี้ หากหวยจะมาออกที่ "บิ๊กอ๊อด" ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะเมื่อตอนที่นั่งเก้าอี้ "รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง" ก็เคยสวมหมวกสองใบคุมงานตำแหน่ง "ผอ.ศปก.กปต." ดูแลสถานการณ์ใต้มาแล้ว

โดยเฉพาะ "กองทัพ" คงยินดีอย่างยิ่ง เพราะเชื่อมือ "บิ๊กอ๊อด" มีความรู้มีความสามารถ และเข้าใจปัญหาภาคใต้เป็นอย่างดี ถึงแม้ตอนเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ก็ไม่เคยทิ้งงานภาคใต้ จะลงพื้นที่ภาคใต้คู่กับ "บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. เพื่อติดตามสถานการณ์อยู่ตลอด เพื่อเก็บข้อมูลรายงานต่อนายกฯ "ตำแหน่ง ผอ.ศปก.กปต.มีความสำคัญมาก เปรียบเสมือนเป็นเสนาธิการของนายกรัฐมนตรีในการแก้ไขปัญหาภาคใต้"

คงต้องจับตาหลัง น.ส.ยิ่งลักษณ์กลับจาก "โปแลนด์-ตุรกี" จะตัดสินใจตั้งใคร "ผอ.ศปก.กปต." กับโจทย์ นำสันติสุขคืนสู่ภาคใต้