ปชป. ซัด นายกฯ ไม่ใส่ใจแก้ปัญหาใต้

นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า ขอแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบลอบวางระเบิดจนทำให้มีทหารเสียชีวิต 8 นาย และบาดเจ็บ 2 นาย ในพื้นที่อ.กรงปินัง จ.ยะลา เมื่อวันที่ 29มิ.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ เพราะเราสูญเสียทหารไม่เว้นแต่ละวัน และความสูญเสียที่เกิดขึ้นก็สวนทางกับท่าทีของคนในรัฐบาลที่ระบุว่าการแก้ไขปัญหาเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นตามลำดับ

โดยรัฐบาลไม่มีท่าทีชัดเจนเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งนี้ตนไม่อยากกล่าวว่ารัฐบาลละเลยในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว

แต่เมื่อช่วงเช้าวันที่ 30 มิ.ย. มีผู้สื่อข่าวถามนายกรัฐมนตรีเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ปรากฏว่าไม่มีคำตอบจากปากนายกรัฐมนตรี และไม่มีคำกล่าวเสียใจกับทหารที่เสียชีวิต จึงสะท้อนความไม่ใส่ใจและไม่คิดดูแลแก้ไขปัญหา

"การปรับคณะรัฐมนตรีที่นายกรัฐมนตรีระบุว่าปรับเพื่อความเหมาะสมนั้น ก็อยากถามว่าเพื่อความเหมาะสมอย่างไร ไม่ทราบว่าเหมาะสมเพื่อประชาชน หรือเหมาะสมเพื่อพรรคการเมืองและแก้ปัญหาทางการเมืองของรัฐบาล ซึ่งการที่มีกระแสข่าวว่านายกรัฐมนตรีจะเป็นรมว.กลาโหม อีกหนึ่งตำแหน่งนั้น พวกผมก็ไม่มีปัญหา ถ้ามีความตั้งใจอยากแก้ไขปัญหาความมั่นคงโดยเฉพาะเรื่องจังหวัดชายแดนภาคใต้

แต่เห็นว่าตั้งแต่เป็นนายกรัฐมนตรีมากว่า 2 ปี ก็ไม่เห็นว่านายกรัฐมนตรีจะแก้ไขปัญหาอย่างไร ซึ่งเรื่องนี้เป็นความเหมาะสม หรือเพื่อต้องการเพิ่มรมช.กลาโหม ในการเพิ่มอำนาจโยกย้ายนายทหาร

ซึ่งเป็นความเหมาะสมทางการเมืองเท่านั้น สำหรับกระทรวงพาณิชย์ ที่มีการปรับนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ ออกจากตำแหน่ง รมว.พาณิชย์ ก็เพราะความลงตัวของรัฐบาล ไม่ใช่ความลงตัวเพื่อประชาชน เนื่องจากนโยบายจำนำข้าว “ทักษิณคิด ยิ่งลักษณ์ทำ ประเทศชาติเจ๊ง” จึงเป็นวิธีการตัดปัญหาของรัฐบาลเท่านั้น" นายชวนนท์ กล่าว

นายชวนนท์ กล่าวต่อว่า หากมีการมอบหมายให้นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นรมว.พาณิชย์ แทนนายบุญทรงนั้น อยากทราบว่าจะแก้ไขปัญหาการทุจริตคอรัปชั่น การเวียนเทียนข้าว การสวมสิทธิ การลักลอบเอาข้าวไปขายอย่างไร ซึ่งปัญหาเหล่านี้เป็นเรื่องทุจริต ถ้าโครงการนี้ไม่มีนักการเมือง ไม่มีพ่อค้าทุจริต เงินที่ขาดทุนแค่ 1 ปี จะรับจำนำข้าวได้ 1.5 หมื่นบาทได้กว่า 3 ปี

อย่างไรก็ตามเรื่องจำนำข้าวที่ป้ายหาเสียงพรรคเพื่อไทย เขียนไว้รับจำนำ 1.5 หมื่นบาท แต่ทำได้เพียง 1 ปีนั้น ถือว่าตระบัดสัตย์กับประชาชน ทั้งที่พรรคการเมืองควรรับผิดชอบต่อนโยบายหาเสียง และไม่ทราบว่าจะเชื่อได้อย่างไรว่าสิ่งที่เขียนอยู่บนป้ายหาเสียงในการเลือกตั้งครั้งต่อไปเป็นความจริง