ทักษิณ อ้างปชต.ขาดตอนไม่ได้ ลั่นไม่แคร์กลับมาเป็นนายกฯหรือไม่

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 26 มีนาคม 2549 14:52 น.

แม้วเกี่ยวก้อย หญิงอ้อ ไดรฟ์กอล์ฟออกกำลังกายก่อนปราศรัยวงเวียนใหญ่เย็นนี้ เสแสร้ง ทำไม่แคร์ว่าจะได้กลับมาเป็นานายกฯ หรือไม่ อ้างประชาธิปไตยต้องอยู่ขาดตอนไม่ได้ มั่นใจประชาชนไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้ามาก ชี้สะท้อนประชาชนหวงแหนประชาธิปไตย พร้อมปัดไม่รู้เรื่องระเบิดเฮือนสุนทรี ที่เชียงใหม่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 11.00 น. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคไทยรักไทย พร้อมด้วยคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา เดินทางออกจากบ้านพักย่านจรัลสนิทวงศ์ไปไดรฟ์กอล์ฟที่สนามสปอร์ต ซิตี้ ย่านประชาชื่น โดยระหว่างวอร์มร่างกาย พ.ต.ท.ทักษิณ พูดคุยกับสื่อมวลชนถึงการเลือกตั้ง ส.ส. ว่าจะเดินทางไปเลือกตั้งตามปกติคือวันที่ 2 เมษายนนี้

ส่วนการที่ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ไปใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าเมื่อวานนี้ (25 มี.ค.) เป็นการส่งสัญญาณอะไรหรือไม่ นายกรัฐมนตรี เลี่ยงไม่ตอบ บอกเพียงว่าเมื่อสักครู่นั่งรถผ่านมามีคนออกไปใช้สิทธิล่วงหน้ากันมาก

เมื่อถามว่าเจ้าหน้าที่ที่ดูแลการเลือกตั้งล่วงหน้าที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ถูกลอบยิง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ให้เจ้าหน้าที่ดูแลอยู่ ส่วนการที่ กกต.เป็นห่วงเขตเลือกตั้ง 30 เขต ในพื้นที่ภาคใต้อาจมีปัญหาคนไปใช้สิทธิไม่ถึงร้อยละ 20 และจะต้องเลือกตั้งใหม่นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ทราบ เรื่องยังไม่เกิด อย่าเพิ่งพูด

ผู้สื่อข่าวถามว่า วันนี้นายกรัฐมนตรีสวมเสื้อโปโลสีขาวมีหมายเลข 3 มีเหตุผลอะไร พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ลูกชายซื้อให้ใส่เป็นแบบเดียวกันหมด ส่วนที่เลือกไดรฟ์กอล์ฟที่นี่ เพราะมีป้ายโฆษณาของนักกอล์ฟ ชูหมายเลข 2 เป็นสัญลักษณ์ของเครื่องดื่มชูกำลังเลยมาที่นี่

นายกฯยังกล่าวถึงการใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าว่า เท่าที่ดูการใช้สิทธิมีจำนวนมาก สะท้อนให้เห็นว่าประชาชนหวงแหนประชาธิปไตย

อย่างที่บอก ผมไม่ค่อย MIND ว่าจะได้เป็นนายกฯ ต่อหรือไม่ แต่ประชาธิปไตยขาดตอนไม่ได้ อันนั้นสำคัญที่สุด สำคัญกว่าใด ๆ ทั้งสิ้น พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าว

เมื่อถามย้ำว่าการที่ผู้ใหญ่ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าเป็นการส่งสัญญาณอะไรหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า แสดงให้เห็นว่าเป็นบุคคลรักประชาธิปไตย เพราะประชาธิปไตยกว่าจะได้มาต้องต่อสู้กัน บางคนเสียเลือดเนื้อ บางคนเสียชีวิต

วันนี้จะปล่อยให้ประชาธิปไตยหายไปไม่ได้ ต้องช่วยกันรักษาไว้ ผมก็ทำหน้าที่ส่วนหนึ่งคือรักษาไว้ซึ่งประชาธิปไตย ไม่ได้สนใจว่าผมจะอยู่หรือไม่อยู่ ไม่เกี่ยวกันเลย แต่ประชาธิปไตยต้องอยู่ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าว

ต่อข้อถามที่ว่า กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยกดดันอย่างหนักจนมีหลายฝ่ายเกรงการเผชิญหน้ากันนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อยากให้ทุกฝ่ายเคารพการตัดสินใจของประชาชน หากไม่เคารพหมายความว่าคนไม่เคารพคือคนไม่รักกติกาของสังคม

เมื่อถามว่าการที่พูดเช่นนี้เป็นการส่งสัญญาณไปยังผู้คัดค้านหรือไม่ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ไม่เกี่ยว เพียงพูดว่าทุกอย่างต้องมีกติกา คนอยู่ร่วมกันต้องมีกติกา อย่างการเล่นกอล์ฟต้องมีกติกา หากตนไม่เคารพกติกา คิดอยากจะตีกอล์ฟเล็งไปโดนหัวคนอื่น ก็ไม่ถูกต้อง เขาให้ตีไปทางโน้น ก็ต้องตีไปทางโน้น หากตนถนัดมือซ้าย ไม่เคารพกติกา ร้านค้าด้านหลังก็พัง

ส่วนการปราศรัยหาเสียงเย็นวันนี้ที่บริเวณวงเวียนใหญ่นั้น หัวหน้าพรรคไทยรักไทย กล่าวว่า จะเน้นเรื่องการแข่งขันกับตัวเอง ทำให้ประชาชนสบายใจ แม้ว่าจะไม่มีคนลงแข่งมากนัก คือ รุ่นเฮฟวี่เวทที่เคยแข่งก็ไม่ยอมลงแข่ง

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะทำให้อายุรัฐบาลชุดต่อไปมีปัญหาหรือไม่ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า เราต้องการปฏิรูปการเมืองโดยใช้คนกลางเข้ามาปฏิรูปเปลี่ยนแปลง เพียงแต่ต้องมีสภาถึงแก้รัฐธรรมนูญได้ ต้องมีสภาถึงจะผ่านร่างแก้รัฐธรรมนูญได้ เพราะฉะนั้นการเลือกตั้งจะทำให้ประชาธิปไตยเดินหน้าต่อไป หลังการเลือกตั้งกระบวนการแก้รัฐธรรมนูญโดยคนกลางเป็นสิ่งที่ต้องช่วยกัน ทำเสร็จเมื่อไหร่ก็ยุบสภา เลือกตั้งเพื่อเริ่มต้นใหม่ ประชาธิปไตยจะได้ไม่ขาดตอน

ส่วนการที่มีหลายกลุ่มรณรงค์ให้ยุติการชุมนุมแล้วไปเลือกตั้ง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ควรเป็นเช่นนั้น ไม่ควรมีคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเป็นกลุ่มนอกกฎหมาย (Out Law)

พ.ต.ท.ทักษิณ ให้สัมภาษณ์ภายหลังออกกำลังกายถึงกรณีที่มีผู้ลอบวางระเบิดร้านเฮือนสุนทรี ที่จังหวัดเชียงใหม่ ว่าไม่ทราบ ช่วงนี้ไม่ค่อยได้อ่านข่าว ไม่รู้เรื่อง ไม่ทราบรายละเอียด ให้เจ้าหน้าที่ทำงานตามกฎหมาย ไม่ต้องไว้หน้าใคร ไม่เช่นนั้นบ้านเมืองไม่มีกติกา วันนี้ไม่ได้คิดอะไร อยากให้รักษาประชาธิปไตย รักษากติกาไว้ให้ได้ จากนั้นเรื่องปลีกย่อยค่อยว่ากัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างเดินทางออกจากสปอร์ต ซิตี้ นายกรัฐมนตรีซึ่งขับรถเองได้แวะซื้อไก่ทอดเคเอฟซี ที่ห้างบิ๊กซี วงศ์สว่าง ก่อนเดินทางกลับบ้านพัก ซอยจรัลสนิทวงศ์ 69