สมชัย รับคิดลาออก ลั่นงานไม่คืบพร้อมพิจารณาตัวเอง

แต่ยืนยันไม่ใช่ตอนนี้ เผยหากทำงานไม่ได้ดั่งใจพร้อมพิจารณาตัวเอง ไม่ต้องรอให้คนอื่นมาไล่ ด้าน สุเมธ เชื่อ สมชัย ที่พูดเกิดจากความน้อยใจ

กล่าวถึงกระข่าวการลาออกว่า เนื่องจากหลังคณะปฏิรูปการปกครองฯ (คปค.) เข้ายึดอำนาจและมีรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว เห็นว่าไม่ได้บัญญัติเรื่องระยะเวลาการดำรงตำแหน่ง หรือวิธีการลาออกไว้เหมือนรัฐธรรมนูญฉบับที่ผ่านมา หากจะมี กกต.ลาออกจะต้องไปยื่นหนังสือกับใคร จึงให้เจ้าหน้าที่หาข้อมูลเตรียมไว้ ไม่ใช่เพราะถอดใจอยากจะลาออก

เช่น อาจกำหนดให้ดำรงตำแหน่งเพียง 2 ปี อาจจะทำให้การทำงานต่อในหน้าที่ กกต.ลำบาก เลยศึกษาหาช่องทางไว้ไม่น่าจะเป็นตอนนี้ แต่อนาคตไม่แน่ หากเราทำงานไปแล้วเกิดปัญหาทำไม่ได้อย่างที่ตั้งใจคงไม่ต้องรอให้ใครมาไล่ ต้องพิจารณาตัวเอง"

ส่วนหนึ่งที่ทำให้อยากลาออกมาจากเมื่อมารับตำแหน่งแล้วไม่สามารถทำอะไรได้อย่างที่ตั้งใจไว้ ไม่ใช่ปัญหาความขัดแย้งระหว่างกรรมการด้วยกัน ทั้งนี้ ในการทำงานแม้พนักงาน กกต.จะเชี่ยวชาญงานเลือกตั้ง แต่บางครั้งก็ยังไม่กล้าที่จะเสนอ ซึ่งอาจเป็นเพราะกลัวว่าล้ำเส้น หรือ กกต.อาจไม่เห็นด้วย

ให้งาน กกต.ซึ่งต้องใช้ทั้งหลักรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์เดินหน้าไปได้ โดยคิดว่าถ้าภายใน 1 สัปดาห์ กกต.ได้มีโอกาสพูดคุย และได้รับความร่วมมือจากพนักงาน ก็จะทำให้ปัญหาในเรื่องการบริหารจัดการ กกต. โดยเฉพาะในเรื่องจัดทำคำวินิจฉัยล่าช้าหมดไป

นายสมชัยเคยพูดในทำนองอยากลาออกจริง แต่เป็นลักษณะบ่นในทำนองน้อยใจ เนื่องจากการบริหารงานไม่ได้เป็นอย่างที่ตั้งใจไว้ ส่วนตัวเชื่อว่า นายสมชัยมีความรับผิดชอบพอ คงไม่ลาออกไปจริงๆ ในตอนนี้

ผมเข้าใจว่า ท่านใจร้อน ท่านเป็นคนขยัน ตอนเป็นผู้พิพากษาก็ทำงานต่างๆ ด้วยตนเอง งานก็เสร็จเร็ว แต่มาอยู่ที่นี่ทำคนเดียวไม่ได้ พอสั่งอะไรลงไปบางครั้งก็ไม่ได้ดั่งใจแถมยังล่าช้าอีก ก็น่าเห็นใจ อีกทั้งท่านสมชัยจะเกษียณปี 2551 ถ้ากลับไปเป็นผู้พิพากษาศาลฎีกาจนเกษียณ ก็มีสิทธิที่จะต่อเป็นผู้พิพากษาจนอายุ 70 ปี เงินเดือนก็ได้มากกว่า"

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก