นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน กล่าวว่า สัญญาณการเผชิญหน้ากันของประชาชนที่สนับสนุนรัฐบาลกับกลุ่มต่อต้านรัฐบาลชัดเจน น่าเป็นห่วงมากขึ้น และมีแนวโน้มขยายตัวไปในหลายจังหวัด แม้เป็นเรื่องธรรมดาที่ประชาชนจะมีความเห็นแตกต่างกันทางการเมือง แต่ต้องไม่สนับสนุนให้เกิดการทะเลาะหรือทำร้ายฝ่ายตรงข้าม
ซึ่งกรณีคนเสื้อแดงจัดม็อบมาคุกคามทำร้ายกลุ่มหน้ากากขาวนั้น รัฐบาลต้องพิสูจน์ความจริงใจว่า ไม่ได้แอบอยู่ข้างหลัง และไม่สนับสนุนการกระทำที่ผิดกฎหมาย
แต่ที่ผ่านมา รัฐบาลมีพฤติกรรมปากว่าตาขยิบ และตำรวจก็ปล่อยปละละเลยจนเกินไป ซึ่งพฤติกรรมของรัฐบาลที่ไม่จริงใจในการรักษาความสงบเรียบร้อย เป็นการแบ่งแยกแล้วปกครอง เห็นดีเห็นงามให้ประชาชนเผชิญหน้ากัน แล้วรัฐบาลก็ฉวยโอกาสกอบโกยตักตวงผลประโยชน์ ปล่อยให้ชาวบ้านตีกันเพื่อกลบข่าวขาลง ทั้งการขาดทุนจำนำข้าว และนโยบายที่ล้มเหลว
ทั้งนี้ สภาวะการเมืองที่ล้มเหลวเช่นนี้ สร้างเงื่อนไขให้เกิดอำนาจนอกระบบเหมือนที่ผ่านๆ มา ซ้ำรอยเหตุการณ์ปี 2549 และรัฐบาลกลายเป็นคนสร้างเงื่อนไขให้เกิดการรัฐประหารเสียเอง เพราะนอกจากไม่ทำหน้าที่ระงับเหตุการเผชิญหน้า แต่กลับเป็นผู้อยู่เบื้องหลังด้วยซ้ำ