นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
ออกมาโจมตีรัฐบาลในเรื่องโครงการรับจำนำข้าวว่า การจำนำข้าวขาดทุน 260,000 ล้านบาท รวมถึงมองว่าเกษตรกรได้ประโยชน์จริงเพียง 80,000 ล้านบาท และมีเงินจากภาษีประชาชนหายไปถึง170,000 ล้านบาท ว่า เรื่องดังกล่าวเป็นการสร้างวาทกรรมลักษณะยกเมฆ นายอภิสิทธิ์เอาตัวเลขมาตัดแปะจากการรายงานข่าว จากข้อมูลที่ยังไม่มีการตรวจสอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
โดยเฉพาะคณะกรรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ(กขช.)ยังมีการดำเนินการออกมา แต่กลับนำเอาเรื่องเหล่านี้มาโจมตีรัฐบาล เพราะขณะนี้จากการตรวจสอบของคณะทำงานพรรคเพื่อไทยการทำนโยบายโครงการรับจำนำข้าว พรรคเพื่อไทยขอยืนยันว่าโครงการจำนำข้าวเป็นประโยชน์กับประชาชนโดยเฉพาะเกษตรกรเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตทำให้ความเป็นอยู่ดีขึ้น ซึ่งต้องแยกเรื่องโครงการจำนำกับการระบายข้าว การระบายข้าวของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีขายข้าวได้ดีกว่ารัฐบาลสมัยพรรคประชาธิปัตย์ในโครงการประกันราคา
โดยขึ้นป้ายทั่วประเทศไม่เอาโครงการจำนำข้าวเพราะที่ผ่านมา นายอภิสิทธิ์ขัดขวางโครงการจำนำข้าวทุกวิถีทาง มั่วตัวเลขขาดทุนโดยหวังเพียงจะคว่ำโครงการ ตนเชื่อว่าโครงการที่ผ่านมาของรัฐบาลเกษตรกรได้ประโยชน์จากการจำนำข้าวเกือบ 5,000บาทต่อตัน ต่างจากโครงการรับประกันที่ผ่านมาทุกฤดูกาลผลิตจะมีเกษตรกรออกมาประท้วงปิดถนน นั่นสะท้อนให้เห็นว่าโครงการประกันไม่ประสบความสำเร็จแต่โครงการจำนำราคาไม่มีการประท้วงมีแต่การชื่นชมให้ดำเนินการต่อ แต่โครงการประกันราคาที่นายอภิสิทธิ์ภูมิใจหนักหนา เป็นการทำงานบนกระดาษตัวข้าวไม่เห็น
รวมถึงมีกลุ่มโรงสี ข้าราชการ และนักการเมืองที่สนับสนุนเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริต ตนขอยืนยันว่าเรื่องดังกล่าวไม่ได้เป็นเรื่องการเมืองและเชื่อว่าวันนี้การที่นายอภิสิทธิ์มุ่งโจมตีโครงการจำนำข้าวเพื่อเป็นการปกปิดโครงการประกันราคาที่ล้มเหลวและส่อทุจริต รวมถึงการกล่าวอ้างตัวเลขของแหล่งข่าวลอยๆ สร้างความสับสนให้กับประชาชนทำให้เกิดความเสียหาย
ซึ่งเรื่องดังกล่าวตนไม่อยากให้นายอภิสิทธิ์เอามือไปชี้นิ้วด่ารัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ แต่ควรหันกลับมาชี้นิ้วตัวเอง อย่าเอาแบบลักษณะหน้าหล่อเนื้อตัวมอมแมมแปดเปื้อนแบบนี้ไม่ถูกต้อง ตนเตรียมจะไปยื่นเรื่องการตรวจสอบโครงการประกันราคาต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) วันที่ 10 มิ.ย. เวลา 10.00 น.