´ทิพาวดี´พร้อมแจง โดนกล่าวโทษต่อคตส.อุ้มไอทีวี

คุณหญิงทิพาวดี เมฆสวรรค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วานนี้ (13 ก.พ.) ว่า สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.)

รายงานให้ที่ประชุมครม.ทราบถึงการดำเนินการตามคำพิพากษาของศาลปกครองกลางที่ให้ความคุ้มครองสถานีโทรทัศน์ทีไอทีวีเป็นการชั่วคราว และให้ สปน. ในฐานะมีหน้าที่โดยตรงในการจัดให้มีบริการสาธารณะ ด้านกิจการวิทยุโทรทัศน์ระบบยูเอชเอฟ (UHF) ดำเนินการให้บริการสาธารณะดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง

โดยจะดำเนินการเอง หรือจะมอบหมายให้ผู้อื่นดำเนินการแทนก็ได้ จนกว่าคดีจะถึงที่สุด หรือศาลจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น

สปน.ยังได้แจ้งให้ครม.ทราบถึงขั้นตอนต่อไปที่จะดำเนินการ คือ ในส่วนของกฎหมายมอบให้สำนักงานอัยการสูงสุด เป็นผู้รับผิดชอบในการดำเนินการฟ้องร้องเรียกค่าปรับ และค่าสัมปทานคืน รวมทั้งทุกคดีที่เกี่ยวข้อง และส่วนที่เกี่ยวกับการจัดรูปแบบองค์กรเพื่อรองรับการบริหารจัดการตามที่ศาลมีคำพิพากษา สปน. มอบให้กรมประชาสัมพันธ์เป็นผู้ดำเนินการต่อไป

โดยจะนำเสนอเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) ในวันนี้ (14 มี.ค.) ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการบริหารงานของหน่วยบริการรูปแบบพิเศษ พ.ศ. 2548 เพื่อจัดให้มีหน่วยบริการรูปแบบพิเศษเป็นการเฉพาะคราว เพื่อที่จะรองรับการดำเนินการต่อไป

"ดิฉันมอบหมายให้สำนักงานสถิติแห่งชาติไปรับฟังความคิดเห็นประชาชนในเวลา 1 เดือน เพื่อนำมาประมวลในการจัดรูปแบบองค์กรบริหารสถานีวิทยุโทรทัศน์ระบบยูเอชเอฟ ต่อไป ขอยืนยันว่าสิ่งที่รัฐบาลดำเนินการอยู่ในขณะนี้เป็นไปตามคำพิพากษาของศาลปกครองกลาง ที่ต้องการให้มีการออกอากาศอย่างต่อเนื่องทุกอย่าง และเราจะยึดตามเจตนารมณ์ของการมีคลื่น ที่จะให้เป็นบริการสาธารณะทางด้านการข่าวที่จะเป็นประโยชน์ของประชาชนต่อไป"

คุณหญิงทิพาวดี กล่าวต่อกรณีมีผู้ไปยื่นฟ้องกล่าวโทษต่อคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.)ประเด็นอุ้มสถานีโทรทัศน์ไอทีวี ว่า ยินดีที่จะให้ข้อเท็จจริง หากถูก คตส.เรียกไปชี้แจง ยืนยันว่า ทุกขั้นตอนที่ดำเนินการไป

ได้พิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบตามกฎหมาย เพราะเรามีนักกฎหมายของรัฐ ทั้งจากสำนักงานอัยการสูงสุด คณะกรรมการกฤษฎีกา และผู้อำนวยการกองการกฎหมาย เข้ามาช่วยดูแล รวมทั้งจะไม่ใช้งบประมาณของทางราชการแต่จะใช้ในลักษณะเครดิตกับบริษัทโฆษณาไปก่อนเป็นการชั่วคราว จนกว่าคดีจะถึงที่สุด หรือศาลมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น เชื่อว่าภายใน 1 เดือนนี้ทุกอย่างจะมีความชัดเจน

จาก หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ