9 มิ.ย. 56 เมื่อเวลา 13.00 น. นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ประณามพฤติกรรมของคนเสื้อแดงที่ล้มเวทีผ่าความจริงที่จังหวัดลำพูนเมื่อวันที่ 8 มิ.ย.ว่า โดยคนกลุ่มดังกล่าวเป็นคนนอกพื้นที่ที่ถูกปลุกระดมจากวิทยุชุมชนด้วยข้อมูลเท็จให้มาป่วนเวทีของพรรคประชาธิปัตย์ มีการปิดสะพานข้ามแม่น้ำทางเข้าหลักของเวที หลังจากนั้นประชาชนที่จะมาฟังปราศรัยก็ต้องพยายามหาเส้นทางอื่นเพื่อเดินทางมาฟังการปราศรัย แต่คนเสื้แดงก็ยังกระจายกำลังตามไปปิดเส้นทางเข้า-ออกทั้ง 5 เส้นทาง นอกจากนี้ยังมีการก่อกวนด้วยการยิงปะทัดหรือตะไลเข้าไปยังเวทีไม่ต่ำกว่า 20 ลูก เป็นพฤติกรรมที่ยอมรับไม่ได้เพราะคนกลุ่มหนึ่งทำผิดกฎหมายอย่างซึ่งหน้า และยังมีการยิงลูกแก้ว ลูกหิน น็อต เข้าไปยังเวทีอย่างต่อเนื่องจนประชาชนได้ร้บบาดเจ็บ อีกทั้งยังมีการรายงานด้วยว่ามีการใช้สิ่งเทียมอาวุธปืนคือใช้ท่อน้ำอัดดินปืนยิงเข้ามาในพื้นที่ ทำให้ต้องยุติการปราศรัยก่อนกำหนด เนื่องจากไม่อยากให้โจรเหล่านี้อาศัยความได้เปรียบในช่วงพลบค่ำทำร้ายประชาชน

"สิ่งที่เกิดขึ้นสะท้อนว่ารัฐบาลยิ่งลักษณ์ไม่ได้บริหารประเทศด้วยคุณธรรม และจริยธรรม เพราะปล่อยให้มวลชนของตัวเองคุกคามพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้าม และประชาชน นางสาวยิ่งลักษณ์ต้องตัดสินใจทำอย่างใดอย่างหนึ่ง ถ้าไม่ทำอะไรก็เท่ากับสนับสนุนคนเสื้อแดงให้" นายชวนนท์กล่าวเเละว่า อย่างไรก็ดีต้องขอบคุณตำรวจจับผู้ต้องสงสัยได้สี่คน ไม่ใช่คนไทยและบอกว่าคนเสื้อแดงจ้างมา แต่ทางตำรวจอ้างว่า ไม่เกี่ยวกับคนเสื้อแดง แต่คิดว่าชาวไทยใหญ่คงไม่เกลียดพรรคประชาธิปัตย์คงไม่มาทำร้ายพวกตน หากไม่มีใครจ้าง นี่คือพฤติกรรมของเสื้อแดง ทำผิดถูกจับได้บอกเป็นแดงเทียม วันนี้ถึงขนาดใช้แดงไทยใหญ่มาทำ ดังนั้น รัฐบาลต้องควบคุมอันธพาลของตัวเองเพราะประเทศนี้เป็นของคนไทยทุกคน เหตุการณ์ทุกอย่างบันทึกเทปไว้หมดแล้ว พรรคจะเดินหน้าเอาผิดกับทุกฝ่ายที่คุกคามสิทธิเสรีภาพของคนอื่นและใช้อาวุธทำร้ายประชาชน พรุ่งนี้ (10 มิ.ย.) ทางฝ่ายกฎหมายของพรรคจะประชุมเวลา 13 นาฬิกา รวบรวมพยานหลักฐาน ดำเนินคดีอย่างถึงที่สุดเพื่อเอาคนผิดมาลงโทษให้เป็นเยี่ยงอย่าง ต้องไม่มีเหตุการณ์อย่างนี้ คนไทยต้องเดินทางไปได้ในทุกพื้นที่

สำหรับการโพสต์เฟซบุ๊กของนายประแสง มงคลสิริ เลขานุการรมว.ศึกษาธิการ ที่ระบุข้อความในเชิงข่มขู่ว่า หลังจากเวทีผ่าความจริงที่จ.ลำพูนเจอลูกแก้วแล้วในอนาคต นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อาจโดนสไนเปอร์ นายชวนนท์กล่าวว่า ถือเป็นพฤติกรรมที่สอดคล้องกับพฤติกรรมคนเสื้อแดงและท่าทีของคนในรัฐบาลที่สนับสนุนให้คนเสื้อแดงคุกคามผู้อื่น ถ้าไม่พร้อมเป็นรับบาลของคนทั้งประเทศ จะให้คนเลือกหรือไม่ว่าประชาชนไม่อยากอยู่ภายใต้การปกครองของรัฐบาลยิ่งลักษณ์เหมือนกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชวนนท์ ยังได้นำ ลูกแก้ว น็อต ลูกหิน ที่มีการระดมยิงเข้าใส่เวทีผ่าความจริงของพรรคประชาธิปัตย์ที่จังหวัดลำพูน มาแสดงต่อสื่อมวลชนเพื่อเป็นหลักฐานด้วย

อัด 'บุญทรง' โกหกปมจำนำข้าว ซัดรัฐบาลถังแตก

นายชวนนท์ กล่าวถึงกรณีที่ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ ยังไม่ยอมรับเรื่องการขาดทุนทั้งที่มีตัวเลขของคณะอนุกรรมการปิดบัญชีจำนำข้าวอย่างชัดเจน แต่กลับอ้างว่า ขายไม่ขาดทุนว่า สิ่งที่ รมว.พาณิชย์ พูดไม่เป็นความจริง เพราะการปิดบัญชีมีการคาดการณ์แล้ว หากขายข้าวในสต็อคที่มีอยู่ทั้งหมดจะขาดทุนเท่าไหร่ คำพูดของทั้งนายบุญทรงและนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ จึงเป็นการกล่าวเท็จต่อประชาชน เพราะความจริงคือมีแต่จะขาดทุนมากขึ้นเพราะข้าวจะเสื่อมสภาพมากขึ้นจนถูกกดราคาจากผู้ซื้อ และความเสียหายจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

นายชวนนท์ ยังกล่าวถึงกรณีที่นายบุญทรง ยืนยันว่า จะไม่มีการกู้เงินเพิ่มเติมเพื่อทำโครงการนี้นั้นไม่เป็นความจริงว่า ขอให้ย้อนไปดูการใช้เงินกู้ของรัฐบาลในโครงการนี้แล้วรวม 4.1 แสนล้านบาท อีก 9 หมื่นล้านบาทใช้สภาพคล่อง ธกส.มาดำเนินการไปก่อน การที่นายบุญทรงอ้างว่าจะไม่ขอกู้เพิ่มอีก ตนยืนยันว่านายบุญทรงโกหก โดนในวันพรุ่งนี้ (10 มิ.ย.) ขอให้จับตาการประชุมครม. เพราะคณะกรรมการกลั่นกรองชุดที่ 3 ที่นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เป็นประธาน ได้ทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีว่า วงเงินในโครงการจำนำข้าวไม่พอที่จะดำเนินโครงการ ขอให้ ธกส.รับภาระเอง หมายความว่าถ้าต้องใช้เงินเพิ่มให้ ธกส.ไปกู้โดยไม่มีหลักเกณฑ์เพราะรัฐบาลถังแตกระบายข้าวไม่ได้ ผลักภาระให้ธกส.โดยกระทรวงการคลังไม่ค้ำประกัน ซึ่งดอกเบี้ยจะแพง โดยระบุว่ารัฐบาลจะชดเชยส่วนต่างของดอกเบี้ยให้ จึงต้องถามว่ารัฐบาลจะเอาเงินจากไหน เพราะไม่มีการจัดงบประมาณในส่วนนี้เอาไว้

"มีข้าราชการที่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของรัฐบาลส่งเอกสารมาให้ ผมเห็นเอกสารนี้แล้วตกใจจริงๆ จึงต้องดูว่า ครม.จะอนุมัติหรือไม่ เพราะก่อนหน้าที่จะมีการสรุปเป็นมติของคณะกรรมการกลั่นกรองฯหลายหน่วยงานไม่เห็นด้วย แต่ถูกบีบจากทางการเมืองจนไม่กล้าคัดค้าน ทำให้มีการผลักภาระให้ ธกส.แบกรับภาระโครงการจำนำข้าวต่อไป ทั้งๆ ที่ ธกส.มีเงินฝากของพี่น้องเกษตรกรอยู่ด้วย แต่รัฐบาลกำลังเอาเงินของเกษตรกรมาปั่นโครงการจำนำข้าวหาประโยชน์ให้กับตัวเอง ถือเป็นเรื่องที่อำมหิตจริงๆ และเป็นเรื่องที่ประชาชนต้องติดตาม ทั้งนี้ในเอกสารดังกล่าวยังระบุด้วยว่า ภายในวันที่ 31 ธ.ค. ให้รัฐหาเงินใช้ ธกส.ให้ได้ แต่ไม่มีกติกา วิธีการใดๆ ที่จะเป็นหลักประกันว่ารัฐบาลจะหาเงินมาคืน ธกส.ได้"

นายชวนนท์ กล่าวว่า สำหรับกรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ตั้งคณะทำงานประชาสัมพันธ์ 5 ด้านนั้น ตนเห็นว่าไม่มีความจำเป็นเพราะเปลี่ยนโฆษกรัฐบาลมีแล้วสี่คน เปลี่ยน รมต.หลายครั้ง แต่ปัญหาบ้านเมืองไม่ได้อยู่ที่การประชาสัมพันธ์ แต่อยู่ที่รัฐบาลไม่พูดความจริง ปกปิดข้อมูล บิดเบือนข่าวสาร ปิดหู ปิดตา ประชาชน จึงไม่ใช่เรื่องยากที่จะแก้ปัญหาแค่พูดความจริงว่า จำนำข้าวเสียหายอย่างไร ปรองดองสอดไส้ล้างผิดคนโกง กล้าพูดหรือไม่ว่าสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องจริง ดังนั้นสิ่งที่เป็นปัญหาของรัฐบาลคือทำผิดกับประเทศจะตั้งทีมประชาสัมพันธ์มากแค่ไหนก็ไม่สามารถเปลี่ยนเรื่องผิดให้เป็นเรื่องถูกไปได้ และหากมั่นใจว่ามีผลงานก็ขอให้เปิดสภาแถลงผลงาน ถ้าแถลงผลงานไม่ได้ก็ไม่มีประโยชน์ที่จะตั้งทีมประชาสัมพันธ์ใหม่

'องอาจ' แนะ 'ปู' ทบทวนปลด 'ปลอด' พ้นเก้าอี้

นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ประธาน ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท ที่จะเข้าสู่กระบวนการคัดเลือกเอกชนมาดำเนินโครงการ แต่ปรากฏว่า ตลอดเวลาของการดำเนินโครงการดังกล่าว นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกฯ ที่รับผิดชอบเรื่องนี้ ได้แสดงพฤติกรรมที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่งว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ควรที่จะทบทวนผู้รับผิดชอบในการบริหารจัดการโครงการน้ำที่ต้องทำงานร่วมมือกับภาคเอกชน แสวงหาความร่วมมือจากเอ็นจีโอ และที่สำคัญคือ ต้องได้รับความร่วมมือจากประชาชนในพื้นที่ต่างๆ จึงจะประสบความสำเร็จ

นายองอาจ กล่าวว่า ดังนั้นผู้รับผิดชอบต้องมีวิสัยทัศน์และพฤติกรรมที่เหมาะสม แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมา นายปลอดประสพ ไม่สามารถดำเนินโครงการนี้ให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติบ้านเมืองได้ เพราะมีพฤติกรรมดูถูกเหยียดหยามประชาชน ซึ่งจะเป็นอุปสรรคต่อการแสวงหาความร่วมมือจากประชาชน และยังมีพฤติกรรมที่ส่อทุจริตในโครงการนี้ด้วย เพราะคนที่เคยทำงานร่วมกับนายปลอดประสพ เช่น นายอุเทน ชาติภิญโญ อดีตประธานคณะกรรมการประธานผันน้ำลงทะเล ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ก็ยื่นเรื่องให้หลายองค์กรตรวจสอบเพราะสงสัยว่าอาจเกิดการทุจริตคอร์รัปชั่น รวมทั้งทัศนคติของนายปลอดประสพที่ใช้วิธีคิดแบ่งแยกแล้วปกครอง จากการหยิบยกเรื่องการสร้างศูนย์ประชุม จ.ภูเก็ต ว่าจะไม่เกิดขึ้น หากคนภูเก็ตไม่เลือก ส.ส.พรรคเพื่อไทย เป็นสิ่งที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อการบริหารโครงการแน่นอน เพราะจะไม่ได้รับความร่วมมือจากประชาชน

ติง 'นายกฯ' อย่าลอยตัวเหนือปัญหา

นายองอาจ กล่าวถึงการขาดทุนในโครงการจนำข้าวของรัฐบาลที่ดำเนินการต่อเนื่องมาเป็นปีที่สองแต่รัฐบาลไม่สามารถชี้แจงตัวเลขการขาดทุนที่ชัดเจนต่อสังคมได้ว่า พรรคประชาธิปัตย์เห็นว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ควรลอยตัวจากปัญหานี้ เนื่องจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นประธานคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ควรต้องเข้ามารับผิดชอบทำความจริงให้กระจ่างต่อสาธารณชนว่า โครงการรับจำนำข้าวมีตัวเลขการขาดทุนเท่าไหร่ อย่างไร พรรคยืนยันว่าสนับสนุนการช่วยเหลือชาวนา แต่ต้องไม่เปิดโอกาสให้แสวงหาประโยชน์โดยมิชอบด้วย เพราะโครงการจำนำข้าวแม้จะช่วยชาวนาแต่ชาวนาก็ไม่ได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่ มีการรั่วไหลเกิดขึ้นจำนวนมาก และก่อให้เกิดปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่น อย่างครบวงจร ตั้งแต่ขั้นตอนการรับจำนำ การเก็บรักษาข้าว และการระบายข้าว แต่รัฐบาลไม่ดำเนินการยับยั้งการทุจริตแต่อย่างใด

นายองอาจ กล่าวว่า นอกจากนี้การดำเนินโครงการรับจำนำข้าวก่อให้เกิดการขาดทุนอย่างที่ไม่ควรจะเป็น ทำให้เห็นว่ามีผลกระทบทั้งสองด้านคือทุจริตและขาดทุน แต่นายกฯ กลับปล่อยให้สิ่งเหล่านี้ดำเนินต่อไป ดังนั้น นายกฯต้องออกมาดำเนินการแก้ปัญหาอย่างจริงจัง ส่วนการชี้แจงของกระทรวงพาณิชย์เมื่อวันที่ 7 มิ.ย.ไม่ได้ก่อให้เกิดความชัดเจนแต่อย่างใด ไม่ต่างอะไรจากลิงแก้แห ยิ่งชี้แจง ยิ่งมัดตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะเมื่อถูกถามก็ตอบไม่ได้ ใช้วิธีเลี่ยงบาลี แก้ตัวน้ำขุ่นๆ อ้างว่าเป็นความลับไม่สามารถเปิดเผยได้ งบประมาณที่ใช้จ่ายไม่ใช่งบลับแต่เป็นงบแผ่นดินที่ผ่านการพิจารณาของสภาแล้วเป็นงบเปิดเผย

นายองอาจ กล่าวว่า ดังนั้นการดำเนินการรัฐบาลต้องเปิดเผยให้ประชาชนได้รับทราบ โดยเฉพาะการที่อ้างว่าต้องเก็บข้อมูลเป็นความลับจนกว่าจะปิดโครงการนั้นเป็นแค่การซื้อเวลา เพราะรัฐบาลสามารถบอกตัวเลขปัจจุบันได้ ไม่จำเป็นต้องซื้อเวลาหรือรอปิดโครงการ ต้องบอกได้ว่า รับจำนำเท่าไหร่ เก็บรักษาไว้เท่าไหร่ ขายเท่าไหร่ ขายให้ใคร ถ้ารัฐบาลยึดมั่นการทำงานแบบโปร่งใสต้องกล้าเปิดเผยข้อมูลออกมา วันนี้อย่าว่าแต่สต็อคข้าวมีอยู่เท่าไหร่ แม้แต่สัญญาซื้อขายข้าวรัฐบาลก็ไม่เปิดเผย ในขณะที่ประเทศอื่นไม่มีการปกปิดข้อมูลในเรื่องการค้าขายข้าวแต่อย่างใด แม้แต่รัฐบาลกัมพูชา สื่อมวลชนยังนำเสนอได้ว่าขายข้าวให้ประเทศไทยมากเป็นอันดับสี่ รัฐบาลจึงต้องยุติพฤติกรรมอ้างว่าทุกอย่างเป็นความลับได้แล้ว เพราะสิ่งเหล่านี้จะกระทบความเชื่อมั่นประเทศ ซึ่งจะเป็นปัจจัยในการพิจารณาเพื่อจัดอันดับเครดิตประเทศด้วย เนื่องจากพฤติกรรมของรัฐบาลก่อให้เกิดปัญหา

นายองอาจ กล่าวว่า ในสัปดาห์หน้า นายกฯจะเรียกประชุมคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) โดยจะมีการพิจารณาเรื่องการรับจำนำข้าวทั้งระบบ รวมทั้งตัวเลขการดำเนินโครงการที่ขาดทุนอย่างมโหฬาร โดยเชื่อว่าจะมีความพยายามแก้ไขตัวเลขของทางราชการเกี่ยวกับการขาดทุนในโครงการนี้ เพื่อให้ตัวเลขการขาดทุนต่ำอย่างที่รัฐบาลต้องการ จึงฝากถึงนายกรัฐมนตรีว่าอย่าปล่อยให้นักการเมืองที่ไม่มีความสามารถในการบริหารโครงการจำนำข้าว สมรู้ร่วมคิดกับข้าราชการบางคนดำเนินการเช่นนี้ การประชุม กขช.นายกฯต้องแสดงความกล้าหาญพูดความจริงกับประชาชน เพื่อแก้ปัญหามากกว่าที่จะบิดเบือนข้อมูลและความจริง เพราะผลกระทบที่เกิดขึ้นไม่ใช่แค่รัฐบาลแต่กระทบประเทศชาติ การขายข้าว และชาวนา และไม่อยากให้ผลการประชุมออกมาเพียงแค่ว่าตัวเลขการขาดทุนที่ออกมาว่า 2.6 แสนล้านบาทเป็นเรื่องการติ๊กผิด แต่ต้องพูดความจริงกับประชาชน

จี้รัฐบาล ลดเงินกู้ 3.5 แสนล้าน เหลือ 2 แสนล้าน

นายณัฐฏ์ บรรทัดฐาน รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2557 ของกรรมาธิการฯ ว่า กระบวนการใช้จ่ายเงินที่ผ่านมาในเรื่องงบเงินกู้เป็นแบบหลักลอยโดยไม่มีเนื้อหาโครงการ ซึ่งเฉพาะงบ 3 แสนห้าหมื่นล้านจากเงินกู้ตามพระราชกำหนด ที่มีแผนการเบิกจ่ายเพียง 1.7 แสนล้านบาท ขณะที่มีแผนการใช้เงินจนถึงสิ้นสุดอายุ พ.ร.ก.เงินกู้เดือนมิถุนายน 2556 ให้ครบวงเงินกู้ จึงเห็นว่าเมื่อไม่มีความชัดเจนและยังไม่สามารถเบิกจ่ายได้ก็ควรปรับลดเงินกู้ลงมาไม่เกินสองแสนล้านแทนที่จะกู้ให้ครบ 3.5 แสนล้านตามกรอบในพระราชกำหนดเงินกู้ดังกล่าว แต่ข้อเสนอนี้ก็ไม่ได้รับการตอบรับจากรัฐบาล จึงประสานไปยังนายธนิตพล ไชยนันทน์ ประธน กมธ.ติดตามงบประมาณ ให้มีการตรวจสอบเรื่องนี้ให้กระบวนการตรวจสอบทำได้อย่างเข้มแข็งมากขึ้น เพราะจนถึงขณะนี้การใช้เงินยังไม่มีหลักเกณฑ์ที่แน่ชัด จึงเกรงว่ารัฐบาลจะอนุมัตการกู้เงินอย่างเร่งด่วนโดยใช้ทีโออาร์แนบ แต่ไม่มีรายละเอียดโครงการเพื่อให้ทันกำหนดภายในเดือนมิถุนายน

"การจัดสรรงบปี 2557 พบว่า งบรายจ่ายประจำ 80% งบลงทุนแค่ 20% หรือ 4% ของจีดีพีเท่านั้น กระบวนการในการพัฒนาประเทศใช้เงินแค่ 20% ไม่สามารถพัฒนาประเทศได้ตามทิศทางที่ควรจะเป็นในเวลาที่่เหมาะสม โดยรัฐบาลพยายามรวบทุกอย่างไปจัดการเอง ทั้งการจัดสรรโครงการพัฒนาเพื่อรองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยไม่กระจายสู่ภาคเอกชน ดังนั้นจากงบลงทุนดังกล่าวไม่สามารถพัฒนาอะไรได้อย่างเป็นมรรคเป็นผล จึงขอให้กระจายการลงทุนสูภาคเอกชนให้ได้เข้าร่วมเป็นผู้ขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจ" รองโฆษก ปชป.กล่าวและว่า นอกจากนี้โครงการประชานิยม จำนำข้าว รถคันแรก นั้น ข้าราชการที่เข้ามาชี้แจงต่อกรรมาธิการพูดถึงสี่หลักคือ 1. ประโยชน์คุ้มทุนหรือไม่ แม้จะมีการออกมาโต้แย้งหรือพยายามแก้ต่างว่าโครงการไม่จบไม่สามารถระบุการขาดทุนได้แต่หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พูดชัดเจนแล้วว่าสามารถประเมินได้เป็นระยะๆ 2. มีการกระจายให้ได้รับประโยชน์อย่างทั่วถึงหรือไม่ 3. กระบวนการเข้าถึงงบประมาณเป็นธรรมหรือไม่ มีใครกินหัวคิวหรือไม่ เงินตกส่วนไหน และ 4. เป็นภาระกับกระทรวงการคลังและประชาชนในระยะยาวมากน้อยแค่ไหน อย่างไร โดยเฉพาะโครงการจำนำข้าวนั้นตนขอเรียกร้องให้ รมว.พาณิชย์ ออกมาชี้แจงยึดตาม 4 หลักการข้างต้น

อย่างไรก็ตามในสัปดาห์หน้ากรรมาธิการงบประมาณฯจะพิจารณากระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา และกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ อยากให้จับตาว่า มีการรวบรัดหรือไม่ เพราะไม่ควรมีการรวบรัดให้อนุมัติโดยเร็ว เนื่องจากรายละเอียดต่างๆ ต้องได้รับการชี้แจงอย่างละเอียด