นายธีรัตถ์ รัตนเสวี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านทางทวิตเตอร์ส่วนตัว ถึงการให้สัมภาษณ์ของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับหนังสือพิมพ์หนังสือพิมพ์ Nikkei ใจความว่า
"ปัจจุบันไทยและญี่ปุ่นมีความร่วมมือกันด้านความมั่นคงผ่านการฝึกคอบบร้าโกลด์ และเออาร์ เอฟ ( ARF) ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี อยากเห็นความสงบในภูมิภาคผ่านการเจรจาในเวทีต่างๆ เพื่อให้เกิดความร่วมมือในหลายด้าน ขณะเรื่องค่าเงินบาทแข็งค่านั้น นายกรัฐมนตรียอมรับว่า อาจจะกระทบกับนักลงทุนญี่ปุ่นที่มาลงทุนในประเทศไทย และไทยอยากเห็นค่าเงินที่มีเสถียรภาพ เห็นเงินทุนไหลเข้ามาลงทุนในไทยโดยตรงมากกว่าเข้าไปลงทุนในตลาดพันธบัตร หากไทยและญี่ปุ่นมีความร่วมมืออย่างใกล้ชิด ก็จะทำให้การร่วมมือดูแลการเคลื่อนไหวของเงินทุนมีความสัมพันธ์กัน
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี อยากชักชวนให้ญี่ปุ่นมาลงทุนเรื่องพลังงานสะอาด เกษตรแปรรูป โครงสร้างพื้นฐาน โดยอยากเห็นระบบรถไฟชินคันเซ็นของญี่ปุ่นในประเทศไทย เพราะขณะนี้ไทยกำลังลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาท นอกเหนือจากอุตสาหกรรมยานยนต์ และอยากเห็นญี่ปุ่นไปลงทุนในภูมิภาคอื่นมากขึ้น ขณะเดียวกัน ทั้งสองประเทศยังมีความท้าทายเหมือนกันคือการรับมือภัยพิบัติ ที่ต้องมีความพร้อม ซึ่งในเดือนพ.ย. นี้ ที่จ.เชียงใหม่ จะมีการประชุมร่วมกันระหว่างไทย-แอฟริกา ซึ่งจะเน้นเรื่องการพัฒนาด้านการเกษตร วิชาการ และสาธารณสุข โดยถือเป็นครั้งแรกที่มีการประชุมแบบนี้ เพราะเมื่อเศรษฐกิจที่จะเติบโตและมีประชากรมากขึ้น ประเทศต่างๆ ต้องมีความมั่นคงด้านพลังงานและอาหาร