เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม ที่ซอยลาดปลาเค้า 60 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย เปิดบ้านพักส่วนตัว ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวที่มีการทาบทามให้ลงสมัครรับเลือกตั้งซ่อม ส.ส.กทม. เขตเลือกตั้งที่ 12 แทนนายการุณ โหสกุล ว่า
ยอมรับว่ามีผู้ใหญ่ และผู้บริหารพรรคเพื่อไทย (พท.) ติดต่อสอบถามจริงว่าอยากให้ตนลงสมัครรับเลือกตั้งในเขตดอนเมือง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้อยากขอเวลาในการทำงานให้กับศาสนาอีกระยะหนึ่ง แม้การบูรณสถานที่ประสูติพระพุทธเจ้าจะใกล้จบสมบูรณ์แล้ว แต่ยังรู้สึกว่าการทำงานให้ศาสนาทำให้เห็นช่องทางว่าการนำหลักธรรมมาแก้ไขปัญหาสังคมเป็นเรื่องสำคัญเพื่อบ้านเมืองจะดีขึ้น ทั้งนี้ ขอใช้เวลาในช่วงนี้ทำงานในเรื่องศาสนามาแก้ปัญหาสังคมก่อน และวางแผนการทำงานในช่วงนี้ไว้พอสมควรแล้วเมื่อมีเหตุการณ์ทาง พท.เกิดอุบัติเหตุทางการเมืองทำให้มีการเลือกตั้งในเขตดอนเมือง ซึ่งขอเวลาอีกสักพักหนึ่งและได้อธิบายให้ผู้ใหญ่ในพรรคแล้ว โดยช่วยแสวงหาคนที่เหมาะสมไปลงสมัครรับเลือกตั้ง และในวันที่ 14 พฤษภาคม ทาง ส.ส.กทม.จะมีการเสนอชื่อกับผู้บริหารพรรค ซึ่งเป็นผู้มีความรู้ความสามารถและมีจิตใจที่ดีจะเป็นประโยชน์ต่อคนดอนเมืองและ กทม.
คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า สำหรับผู้ที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งนั้นเป็นชื่อที่ช่วยกันคิดว่าใครจะเหมาะสมและทำหน้าที่ได้มีประสิทธิภาพแต่ยังไม่สามารถเปิดเผยชื่อ โดยจะต้องรอเสนอผู้บริหารพรรคก่อน ซึ่งมีผู้ที่ถูกเสนอชื่อต่อกรรมการบริหารพรรคอยู่ 2 ชื่อ และคงจะสรุปให้เหลือเพียงชื่อเดียวในวันที่ 14 พฤษภาคมนี้ โดยผู้ที่ถูกเสนอชื่อเป็นผู้ที่รู้จักกันดี ทั้งนี้ ผู้ใหญ่ที่มาทาบทามก็เป็นผู้ใหญ่ในประเทศ
เมื่อถามถึงเหตุการณ์มีปากเสียงกันระหว่างนายแทนคุณ จิตต์อิสระ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขต 12 จากพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และนายการุณนั้น คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า เชื่อว่าการเลือกตั้งใน กทม.จะไม่นำไปสู่ความรุนแรงในสนามการเลือกตั้ง เพราะพื้นที่ กทม.มีสื่อมวลชนติดตามอย่างใกล้ชิด ตนทำงานการเมืองและรวมถูกตัดสิทธิเลือกตั้งมาถึง 21 ปี ไม่เคยเห็นความรุนแรงในสนามเลือกตั้ง กทม. ดังนั้น คงไม่มีใครคิดไม่ดีเลวร้ายใช้วิธีย้อนยุค
เมื่อถามถึงการไม่ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.จะมีโอกาสเข้ามาทำงานตำแหน่งในคณะรัฐมนตรี (ครม.) หรือไม่ คุณหญิงสุดารัตน์ปฏิเสธโดยระบุว่า ถ้าจะเข้าสู่การเมืองก็ควรต้องผ่านการเลือกตั้งก่อน แต่ครั้งนี้งานส่วนตัวยังไม่เสร็จ อีกทั้งตั้งใจว่าไม่อยากจะรับตำแหน่งใดๆ ในทางการเมือง เพราะตอนนี้ยังไม่มีการปรับ ครม. แม้ยังไม่ได้เป็น ส.ส. แต่ก็ยังทำงานให้กับส่วนรวมด้วยการนำศาสนามาแก้ปัญหาสังคม