“หมวดเจี๊ยบ” ปฏิเสธ รัฐบาลไม่ได้ใช้มวลชนกดดัน ศาล รธน.

 ร.ท.หญิง สุณิสา เลิศภควัต รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่พรรคฝ่ายค้าน กล่าวว่าการชุมนุมของผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับบทบาทของศาลรัฐธรรมนูญรัฐบาลอยู่เบื้องหลังว่า ขอปฏิเสธว่ารัฐบาลไม่ได้ใช้มวลชนมากดดันศาลแต่อย่างใด โดยรัฐบาลมีจุดยืนที่ชัดเจน คือ เคารพหลักการแบ่งแยกอำนาจ ตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และไม่ได้ต้องการรวบอำนาจ หรือขัดขวางการตรวจสอบของศาล ตามที่มีการกล่าวหา และขอถามกลับว่า การยุให้ประชาชนแสดงพลังต่อต้านรัฐบาลในเรื่องต่าง ๆ

เรียกว่าเป็นการปลุกระดมมวลชนเพื่อกดดันหรือโค่นล้มรัฐบาลหรือไม่ พรรคฝ่ายค้านกำลังรอคอยจังหวะเพื่อปูทางไปเล่นเกมการเมืองนอกสภาด้วยวิธีการที่ไม่เป็นไปตามกติกาประชาธิปไตย ใช่หรือไม่

ร.ท.หญิง สุณิสา กล่าวด้วยว่า อยากให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ บอกลูกพรรค ให้หยุดใส่ร้าย น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เรื่องการชุมนุมนี้ได้แล้ว เนื่องจากการที่นายกฯ พูดถึงสิทธิในการชุมนุมของประชาชน ไม่ได้แปลว่า นายกฯ สนับสนุนการกระทำที่ผิดกฎหมาย แต่เป็นการพูดถึงหลักการที่ระบุไว้ในรัฐธรรมนูญว่า ซึ่งต้องเป็นการชุมนุมอย่างสงบและอยู่ในกรอบของกฎหมาย ที่รัฐบาลทุกรัฐบาลต้องเคารพ และต้องปฏิบัติกับประชาชนทุกกลุ่ม ทุกสีเสื้อ อย่างเท่าเทียมกัน

หากมีการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎหมาย เจ้าหน้าที่ย่อมต้องดำเนินการไปตามขั้นตอนอยู่แล้ว การที่ฝ่ายค้านเรียกร้องให้รัฐบาลขัดขวางการชุมนุมของประชาชนนั้น

ยืนยันว่ารัฐบาล เคารพสิทธิ์ของประชาชน และเปิดใจกว้าง รับฟังความคิดเห็นต่างอยู่เสมอ เมื่อมีผู้ชุมนุมคัดค้านรัฐบาล นอกจากจะไม่ได้ขัดขวางแล้วยังอำนวยความสะดวกเรื่องการจราจรและดูแลความปลอดภัยด้วย อยากถามว่าการให้รัฐบาลเอาปืน รถถังออกมาปราบปรามประชาชน จนมีคนตายเป็นร้อยศพ เหมือนที่ผ่านมาหรือไม่ ขอยืนยันว่ารัฐบาลชุดนี้ ไม่มีนโยบายทำร้ายประชาชน

“ขอยืนยันว่า รัฐบาลไม่ต้องการทำลายระบบการถ่วงดุลและตรวจสอบ และไม่ต้องการล้มอำนาจศาลแต่อย่างใด ไม่เข้าใจว่าทำไมจึงพูดบิดเบือนใส่ร้ายรัฐบาลและนายกฯ ในประเด็นนี้ไม่หยุดหย่อน ทั้ง ๆ ที่ รัฐบาลปฏิเสธไปแล้วหลายครั้ง ต้องการปลุกระดมให้เกิดม็อบชนม็อบหรืออย่างไร มันสะท้อนว่า ไม่ต้องการเห็นบ้านเมืองเกิดความสงบสุข พอเห็นคนไม่เข้าใจกัน แทนที่จะช่วยไกล่เกลี่ย แต่กลับรีบเสี้ยมให้เขาตีกันทันที” ร.ท.หญิงสุณิสา กล่าว