เอแบคโพลล์ชี้ปชช.เกินครึ่งไม่กังวลสัมพันธ์ไทย-กัมพูชาปมพิพาทปราสาทพระวิหาร กว่า 90 เปอร์เซ็นต์หนุนใช้การเจรจาอย่างสันติ
นายสุริยัน บุญแท้ ผู้ช่วยผอ.สำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยว่า จากการสำรวจเรื่องความกังวลของประชาชนต่อความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา ท่ามกลางกรณีพิพาทประสาทพระวิหาร จากตัวอย่างประชาชนทั้งสิ้น 2,232 ตัวอย่าง ใน 17 จังหวัด อาทิ กรุงเทพมหานคร เพชรบุรี ศรีษะเกษ ขอนแก่น พัทลุง และสุราษฎร์ธานี ระว่างวันที่ 15 - 19 เม.ย.ที่ผ่านมา พบว่า ร้อยละ 47.6 รู้สึกกังวลต่อความสัมพันธ์ในอนาคต ขณะที่ร้อยละ 52.4 ไม่รู้สึกกังวล
ส่วนความกังวลนี้จะนำไปสู่สงครามไทย-กัมพูชาหรือไม่นั้น ร้อยละ 47.4 ระบุว่ากังวลมากถึงมากที่สุด ขณะที่ร้อยละ 27.6 กังวลน้อยถึงไม่กังวลเลย โดยร้อยละ 25.0 กังวลปานกลาง
อย่างไรก็ดีพบว่าตัวอย่างสูงถึงร้อยละ 95.2 สนับสนุนให้ใช้การเจรจาโดยสันติวิธีเป็นแนวทางในการแก้ปัญหา โดยมีเพียงร้อยละ 4.8 สนับสนุนให้ใช้กำลังทหาร ทั้งนี้ยังพบว่าร้อยละ 61.1 คิดว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อการรวมกลุ่มประชาคมอาเซียน ขณะที่ ร้อยละ 38.9 คิดว่าส่งผล สำหรับความรู้สึกที่มีต่อชาวกัมพูชาในปัจจุบัน พบว่าร้อยละ 24.3 ระบุรู้สึกดี ร้อยละ 42.0 ระบุรู้สึกเฉยๆ ในขณะที่ร้อยละ 33.7 ระบุรู้สึกแย่
นายสุริยัน กล่าวอีกว่า แม้กรณีพิพาทประสาทพระวิหารจะเป็นเรื่องตึงเครียดของทั้งสองประเทศ แต่คนไทยเองก็ยังอยากรักษามิตรกับประเทศนี้ไว้ และหนุนแนวทางสันติวิธีในการแก้ปัญหา
ทั้งนี้จากการสัมภาษณ์เชิงลึกกับกลุ่มเป้าหมายผู้ถูกศึกษา ยังพบว่า ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ อาทิ การค้าชายแดน แรงงาน และการลงทุนในกัมพูชา นั้น แม้จะมีระดับความสำคัญไม่เทียบเท่ากับอธิปไตยเหนือดินแดน แต่ก็ถือว่ามีความสำคัญมากที่จะยอมสูญเสียไม่ได้เช่นกัน ดังนั้น จึงไม่อยากให้เกิดเหตุบานปลายจนกระทบต่อผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจดังกล่าว และหวังว่ารัฐบาลของทั้งสองประเทศจะมีแนวทางออกในการแก้ปัญหาที่สร้างสรรค์เพื่อรักษาไว้ซึ่งผลประโยชน์ของชาติร่วมกันต่อไป