วันนี้ (17 เม.ย.) เวลา 17.30 น. ที่ทำการพรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย อ่านแถลงการณ์ภายหลังการประชุมของคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค คณะกรรมการประสานภารกิจ และที่ประชุม ส.ส.ของพรรค ในสองประเด็นคือ กรณีศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 นั้น ที่ประชุมเห็นว่า
รัฐสภามีอำนาจในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ เป็นไปตามบทบัญญัติ มาตรา 291 ของรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 โดย ศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจในการรับพิจารณาเรื่องนี้
ฉะนั้น รัฐสภาจึงไม่ต้องดำเนินการตามศาลรัฐธรรมนูญในเรื่องดังกล่าว เพราะถือว่าเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ และ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสมาชิก จะร่วมกันออกคำแถลงการณ์ชี้แจงต่อพี่น้องประชาชน ถึงเหตุผลในการคัดค้านการกระทำของศาลรัฐธรรมนูญ ที่ก้าวล่วงอำนาจของรัฐสภาในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่กำลังดำเนินการกันอยู่ในรัฐสภาปัจจุบัน และยืนยันว่าสมาชิกรัฐสภาที่ร่วมกันพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญกันอยู่ในขณะนี้ จะร่วมกันหารือเพื่อหาทางออกจากวิกฤตความขัดแย้งนี้ต่อไป ทั้งนี้ เพื่อให้กระบวนการทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตยสามารถดำเนินต่อไปได้อย่างถูกต้อง และชอบด้วยรัฐธรรมนูญ
นายภูมิธรรมยังระบุว่า ในวันที่ 18 เม.ย.นี้ เวลา 09.30 น. รัฐสภาจะเปิดประชุมเพื่อลงมติในระเบียบวาระที่ยังค้างอยู่ โดยเฉพาะในประเด็นที่มีการเสนอญัตติให้มีการแปรญัตติเป็นเวลา 60 วัน แต่ไม่ครบองค์ประชุม และเพื่อให้การดำเนินการในรัฐสภาเป็นไปด้วยความเรียบร้อย พรรคจึงสนับสนุนให้มีการพิจารณาระเบียบวาระดังกล่าวใหม่ เพื่อให้กระบวนการต่างๆ ในรัฐสภาเกิดความเรียบร้อยต่อไป
ส่วนประเด็นที่สอง คือ การพิจารณาข้อเสนอเลื่อนระเบียบวาระการพิจารณากฎหมายนิรโทษกรรม นายภูมิธรรมระบุว่า ที่ประชุมพรรคเพื่อไทยในระดับต่างๆ ได้พิจารณาอย่างกว้างขวางรอบคอบ ทั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์ พรรคและคณะกรรมการประสานภารกิจและที่ประชุม ส.ส.พรรค มีมติเห็นชอบร่วมกัน ดังนี้ คือ พรรคมีมติ เห็นชอบ และสนับสนุน ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมของ ส.ส. วรชัย เหมะ และขอให้มีการพิจารณาเลื่อนระเบียบวาระขึ้นมา เป็นวาระแรกเพื่อสามารถพิจารณาให้ทันการเปิดสมัยประชุมหน้าโดยให้มีการพิจารณาเลื่อนระเบียบวาระ ในการประชุมวันพฤหัสบดีที่ 18 เม.ย.นี้
แต่ทั้งนี้ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ต้องยึดหลักการที่จะช่วยนิรโทษกรรม และช่วยเหลือประชาชนทุกฝ่ายก่อน โดยยังไม่พิจารณา นิรโทษกรรมแกนนำของทุกฝ่ายในขณะนี้ แต่จะนำเรื่องการนิรโทษกรรมแกนนำผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกคนอีกครั้ง อย่างรอบคอบ ในโอกาสต่อไปในอนาคต