“อภิสิทธิ์” สะกิด “ยิ่งลักษณ์” ลุยดับไฟใต้เอง

ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ความรุนแรงใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ล่าสุดมีเหตุยิงระเบิดเอ็ม 79 ถล่มบ้านนายนัจมุดดีน อูมา ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี ว่า ขณะนี้จะต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ เจ้าหน้าที่ต้องเข้มงวด และประชาชนไม่ควรประมาท ตนเป็นห่วงกับข่าวที่ออกมาว่า จะมีการเลื่อนพูดคุยระหว่างตัวแทนสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กับกลุ่มบีอาร์เอ็นออกไป จากเดิมที่กำหนดไว้ในปลายเดือนนี้ ซึ่งการอ้างว่า ประเทศมาเลเซียจะมีการเลือกตั้ง คงฟังไม่ขึ้น เพราะเป็นเรื่องที่ทราบกันมานานอยู่แล้ว

ทั้งนี้ตนคิดว่า การเจรจามีความจำเป็นที่เราต้องแสดงท่าทีให้ชัดว่า เราต้องการให้ฝ่ายที่พูดคุยไปสื่อสารในพื้นที่ให้ลดความรุนแรง ถ้าไม่มีการเชื่อมโยงจุดนี้ ตนกังวลว่า จะทำให้เกิดเหตุรุนแรงในพื้นที่มากขึ้น ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ก็ปฏิบัติตัวลำบาก ซึ่งการพูดคุยจะดำเนินการต่อไปได้จะต้องช่วยกันลดความรุนแรงก่อน และต้องถามให้ชัดเจนว่า ผู้ที่มาพูดคุยด้วยทราบหรือไม่ว่า ใครเป็นผู้ก่อความรุนแรงในช่วงที่ผ่านมา สามารถติดต่อประสานงานกับกลุ่มที่ปฏิบัติการณ์ในพื้นที่ได้หรือไม่ ไม่เช่นนั้นก็คงจะยากที่จะใช้การพูดคุยในการแก้ปัญหา ตอนนี้เรายังสรุปไม่ได้ว่า ยังมีกลุ่มต่อต้านหรือมีกลุ่มที่ทำงานอีกด้านหนึ่งต่างจากกลุ่มที่เจรจากับเรา

นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อไปว่า ตนเชื่อว่า ความรุนแรงที่เกิดขึ้นจะเชื่อมโยงถึงการพูดคุย ที่ผ่านมาอาจเป็นการแสดงถึงอำนาจหรือส่งสัญญาณความไม่เห็นด้วย หรือการไม่มีส่วนร่วมก็แล้วแต่รัฐบาลจะต้องรีบเร่งแก้ปัญหา

อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวเห็นว่า ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี จะทำงานในเรื่องนี้ลำบาก เพราะไม่มีส่วนร่วมพูดคุยด้วย และไม่ได้ร่วมคณะนายกฯ เดินทางลงพื้นที่ ดังนั้นนายกฯ ควรจะเข้ามาดูทุกอย่างด้วยตัวเอง และปรับทิศทางการพูดคุยเพื่อลดความรุนแรงลง โดยนำปัญหามาวางบนโต๊ะว่า ช่วงเดือนเมษายน เกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นบ้าง และสิ่งเหล่านี้ไม่ควรเกิดขึ้นอีก และฝ่ายที่มาพูดคุยกับเราจะมีความรับผิดชอบมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาอย่างไร ที่ผ่านมา แนวทางการทำงานของรัฐบาลเป็นไปตามแนวคิดของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ย่ามใจ เพราะเชื่อเรื่องอำนาจทำให้เข้าใจว่า เมื่อขอให้รัฐบาลมาเลเซีย ช่วยจัดการ และเขารับปากก็ย่ามใจ ถ้าคิดแบบพ.ต.ท.ทักษิณ จะอันตรายมาก เพราะไม่เข้าใจความละเอียดอ่อนของปัญหาและสถานการณ์