ผ่านฉลุย!ร่างไขแก้รธน.ทั้ง3ฉบับ

ภาพจาก คมชัดลึกภาพจาก คมชัดลึก


ผ่านฉลุย! สมาชิกรัฐสภาเสียงส่วนใหญ่เห็นชอบรับหลักการวาระที่ 1 แห่งร่างแก้ไขรธน.ทั้ง 3 ฉบับ หลัง'ส.ส.รัฐบาล-ส.ว.เลือกตั้ง'จับมือหักดิบขอปิดอภิปราย

 


4เม.ย.2556 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นรายมาตรา 3 ฉบับ เป็นวันที่สามได้เริ่มขึ้นตั้งแต่เวลา 09.30 น. ของวันที่ 3 เม.ย.ล่วงเลยมาถึงเวลา 22.45น. ได้เกิดความวุ่นวายเมื่อนายไพบูลย์ ซำศิริพงษ์ ส.ว.ปทุมธานี ได้ลุกขึ้นเสนอขอให้ปิดอภิปราย และทำการลงมติ ตามข้อบังคับการประชุมข้อ 32(5)  ซึ่งได้รับเสียงโห่ร้อง พร้อมมีเสียงสนับสนุนจากส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล และกลุ่มส.ว.สายเลือกตั้ง


ส่งผลให้นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ประธานวิปฝ่ายค้านได้ลุกขึ้นอภิปรายโต้แย้งว่า การเสนอญัตติดังกล่าวเป็นการเสนอที่ผิดข้อตกลงที่วิปรัฐาลและวิปฝ่ายค้านได้ตกลงกันไว้ รวมทั้งนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา ผู้ทำหน้าที่ประธานในห้องประชุมได้พยายามขอร้อง และได้ชี้แจงต่อที่ประชุมว่าในขณะนี้ยังเหลือผู้อภิปรายทั้งฝ่ายส.ส.รัฐบาล ฝ่ายค้าน และสมาชิกวุฒิสภาอีกจำนวนมาก ซึ่งหากนับรวมระยะเวลาที่เหลือตามที่มีการตกลงกันเอาไว้ยังมีเวลาที่จะต้องอภิปรายมากกว่า 8 ชั่วโมง ดังนั้นจึงอยากจะให้วิปรัฐบาล ฝ่ายค้านและสมาชิกวุฒิได้ใจเย็นๆ ไปพูดคุยตกลงกัน หลังจกานั้นนายสมศักดิ์ได้สั่งพักการประชุม

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า หลังการพักการประชุม ที่ประชุมร่วมรัฐสภาได้เปิดขึ้นอีกครั้งเมื่อเวลา 00.20 น.วันที่ 4 เม.ย.นายสมศักดิ์ได้ขึ้นนั่งบังลังก์และดำเนินการประชุมต่อโดยนายสมศักดิ์ได้สอบถามนายไพบูลย์ผู้ที่เสนอญัตติขอให้ปิดการอภิปราย และทำการลงมติว่าจะถอนญัตติดังกล่าวที่ได้เสนอให้ปิดประชุมหรือไม่ ซึ่งนายไพบูลย์ได้ลุกขึ้นอภิปรายว่าโดยได้พาดพิงไปถึงส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ จ.ปทุมธานี ว่า " ถ้าอยากจะรู้ว่าผมเป็นคนอย่างไรก็ขอให้ไปสอบถามส.ส.ปทุมธานีของพรรคประชาธิปัตย์ได้ แต่ตนเห็นว่าการอภิปรายในเรื่องนี้เราได้ใช้เวลามาครบสามวันตามที่มีการตกลงกันเอาไว้แล้ว ดังนั้นผมยังขอยืนยันที่จะขอให้ปิดการอภิปรายตามที่ได้เสนอเอาไว้ "

หลังจากนั้นนายเกียรติศักดิ์ ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ ได้ลุกขึ้นอภิปรายว่า "ผมรู้จักนายไพบูลย์ดี เพราะในตอนที่ผมได้รับเลือกเป็นส.ส.จังหวัดปทุมธานีก็ได้ไปพบนายไพบูนย์ที่บ้านเพื่อขอพร ตลอดเวลาที่ผ่านมาผมยืนยันได้ว่านายไพบูลย์เป็นนักการเมืองอาวุโสอีกท่านหนึ่งที่ทำงานการเมืองอย่างตรงไปตรงมา แต่ในการอภิปรายในครั้งนี้ผมอยากจะขอร้องไปนายไพบูลย์ว่า ถ้าจะให้ผมไปกราบเลยตอนนี้ผมก็ยอม ที่อยากจะขอให้นายไพบูลย์ถอนญัตติการเสนอปิดประชุม เพื่อให้การประชุมสามารถดำเนินการอภิปรายในส่วนที่เหลือได้ อีกทั้งยังจะไม่เป็นการปิดหูปิดตาประชาชนที่จะรับฟังการอภิปรายด้วย

นายชวน หลีกภัย ที่ประธานสภาปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ได้ลุกขึ้นอภิปรายว่า เพื่อเป็นไปตามข้อตกลงเดิม ผมอยากจะให้มีการเปิดอภิปรายต่อไป เรื่องนี้ผมไม่อยากจะให้มองว่าใครแพ้ใครชนะ

ต่อมานายสมศักดิ์จึงได้สอบถามไปยังนายไพบูลย์ว่าจะถอนญัติที่เสนอหรือไม่ ซึ่งนายไพบูลย์ได้ยืนยันว่า จะขอปิดอภิปราย และยืนยันว่า การเสนอในครั้งนี้ไม่ใช่การปิดหูปิดตาประชาชน แต่การอภิปรายได้ครบกำหนดสามวันแล้ว

นายจุรินทร์ได้ลุกขึ้นอภิปรายว่า "ผมคงจะไปพูดคัดค้านหรือจะเปลี่ยนแปลงให้มีการดำเนินการอภิปรายต่อในญัตตินี้ไม่ได้ เพราะเนื่องจากเราเป็นเสียงส่วนน้อยการจะไปคัดค้านอะไรในตอนนี้ก็คงจะไม่เกิดประโยชน์ ในเมื่อเสียงส่วนใหญ่มีความต้องการที่จะให้ปิดการอภิปรายและลงมติ ดังนั้นอนาคตของประเทศคงจะต้องขึ้นอยู่กับมติเสียงส่วนใหญ่ก็แล้วกัน"

หลังจากนั้นนายสมศักดิ์จึงได้สั่งปิดการอภิปรายและนับองค์ประชุมรัฐสภา โดยมีจำนวน 428 ครบองค์ประชุม ต่อจากนั้นได้สั่งดำเนินการลงมติด้วยวิธีการขานชื่อสมาชิกทีละคน และให้โหวตทีละฉบับ จนเวลาล่วงเลยมาถึงเวลา 01.30 น.ปรากฏว่าที่ประชุมมีมติรับหลักการวาระแรก ร่างแรก แก้ไขฯที่มาของส.ว. ด้วยคะแนน 367 ต่อ 204 เสียง งดออกเสียง 34 ร่างที่สองแก้ไขฯมาตรา 190 ด้วยคะแนน 374 ต่อ 209 เสียง งดออกเสียง 22 และร่างที่สามแก้ไขฯมาตรา 68 และมาตรา 237 ด้วยคะแนน 374 ต่อ 206 เสียง งดออกเสียง 25 ถือว่าที่ประชุมมีมติรับหลักการทั้ง 3 ร่าง โดยตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญฯขึ้นมาพิจารณา 3 คณะ คณะละ 45 คน และเป็นที่น่าสังเกตว่าสมาชิกพรรคภูมิใจไทยงดออกเสียง  หลังจากนั้นประธานจึงสั่งปิดการประชุม


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์