วันนี้ (31 มี.ค.) นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ ให้สัมภาษณ์
ถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์และส.ว. จะยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีให้ตีความร่างพ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อใช้ในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน วงเงิน 2 ล้านล้านบาท ว่า ไม่ได้อยู่เหนือความคาดหมาย เราทราบอยู่แล้วว่าฝ่ายตรงข้ามกับรัฐบาลต้องพยายามอย่างที่สุดในการหยุดยั้งร่างกฎหมายฉบับนี้ และที่มีความกังวลว่าโครงการนี้จะไม่สำเร็จก็ไม่เป็นความจริง เพราะสิ่งที่ฝ่ายค้านและส.ว.บางกลุ่มกังวลจริงๆกังวลว่าจะสำเร็จและกลัวว่าจะสำเร็จโดยรัฐบาลพรรคเพื่อไทย เพราะถ้าสำเร็จใน 7 ปีประชาชนก็จะให้โอกาสจะให้กำลังใจสนับสนุนพรรคเพื่อไทยในการทำงาน และหลังจาก 7 ปีแล้ว โอกาสทางการเมืองของพรรคอื่นโดยเฉพาะพรรคฝ่ายค้านก็อาจจะลดน้อยถอยลงไปอีกกว่าที่เป็นอยู่
“ผมคิดว่าสาระมันอยู่ที่ตรงนี้ อย่าไปกังวลเลยครับรัฐบาลจะทำงานให้ประชาชน ถ้าฝ่ายค้านทำงานอย่างสร้างสรรค์ ตรวจสอบอย่างมีเนื้อหาสาระยังไงประชาชนก็ให้โอกาส แต่ถ้าทำงานแบบตั้งแง่ มีวาทะกรรมทางการเมืองทั้งที่สาระซ้ำซากวนเวียนประชาชนก็จะยิ่งถอยห่างไปเรื่อยๆ”นายณัฐวุฒิ กล่าว
ส่วนกรณีที่นายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และอดีตรมว.คลัง เขียนข้อความในเว็บไซต์เฟซบุ๊ค
ระบุว่านายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ทรยศต่อตำแหน่งขุนคลังนั้น นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า สิ่งที่นายกรณ์กล่าวหาพูดเกินไป ไม่เป็นความจริง เพราะตำแหน่งขุนคลังคือคนที่ทำหน้าที่บริหารการเงินเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการพัฒนาประเทศ และโครงการนี้พูดชัดเจนว่าเป็นโครงการที่ลงทุนครั้งใหญ่เพื่อพลิกโฉมประเทศไทยภายใน 7 ปี ซึ่งตนคิดว่านายกิตติรัตน์เป็นขุนคลังที่คิดแล้วทำตามนโยบายของรัฐบาลทันที ดีกว่าขุนคลังที่บอกว่าคิดไว้ก่อนแต่ไม่เคยทำสักทีนั่นเป็นการทรยศต่อประชาชนหรือทำลายความหวังของประชาชนหรือไม่ นั่นคือสิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์ต้องทบทวน จึงยืนยันได้เพราะอยู่ในรัฐบาลเดียวกันว่านายกิตติรัตน์ไม่ได้ทรยศ