ไอทีวี วอนอย่าระงับนะ.. แฉ.! สื่อบางคนจ้องผลประโยชน์

หลังจากที่ คุณหญิงทิพาวดี เมฆสวรรค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการกำกับการบริหารวิทยุโทรทัศน์ ระบุอาจต้องให้ไอทีวีหยุดออกอากาศเป็นเวลา 30 วัน

กรณีที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) บอกยกเลิกสัญญา เนื่องจากบริษัทไอทีวีฯ ไม่สามารถจ่ายหนี้ที่ค้างชำระได้ โดยจะครบกำหนดวันพรุ่งนี้ (6 มี.ค.) นั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ กลุ่มพนักงานไอทีวีได้ออกแถลงการณ์ระบุว่า สืบเนื่องจากกรณีที่มีข่าวว่าอาจจะให้สถานีโทรทัศน์ทีไอทีวี กลุ่มพนักงานเห็นว่า การหยุดการออกอากาศจะส่งผลเสียต่อการให้บริการด้านข้อมูลข่าวสาร อันเป็นบริการสาธารณะขั้นพื้นฐาน

ซึ่งถือเป็นประโยชน์ของชาติและประชาชน เพราะตั้งแต่วันที่ 8 มี.ค.เป็นต้นไป คลื่นความถี่และอุปกรณ์ต่างๆ รวมถึงบุคลากรของไอทีวีจะสิ้นสภาพ และถูกโอนไปเป็นสมบัติของชาติ

หากระงับการออกอากาศเป็นเวลานานๆ จะส่งผลกระทบต่อการสูญเสียรายได้ ความเชื่อถือของลูกค้า รวมถึงประชาชนที่รับรู้ข่าวสารจากไอทีวี

กลุ่มพนักงานใคร่ขอชี้แจงว่า รัฐไม่ได้อุ้มหรือเอื้อประโยชน์ให้กับพนักงานไอทีวี เนื่องจากเงินจำนวน 400 ล้านบาท ที่ บมจ. อสมท จำกัด ทดรองจ่ายมาให้ก่อน เปรียบเสมือนการให้ยืม และเมื่อไอทีวีมีรายได้จากการขายโฆษณาและให้เช่าเวลา ก็จะคืนเงินดังกล่าวพร้อมค่าจ้างบริหารอีกร้อยละ 10 จากรายได้ทั้งหมด

เห็นได้จากเดือน มี.ค. ไอทีวีมีรายได้จากการขายโฆษณาเป็นเงิน 130 ล้านบาท และค่าเช่าเวลาอีก 30 ล้านบาท ทำให้พนักงานไอทีวีเชื่อว่าหากได้ออกอากาศต่อไป สามารถนำเงินมาคืน บมจ. อสมท จำกัด ได้ภายในเวลาไม่เกิน 3 เดือน

และหากในปี 2550 ไอทีวีสามารถทำรายได้เท่ากับปี 2549 คือ 2,100 ล้านบาท ขณะที่ค่าใช้จ่ายต่อปีอยู่ที่ 1,200 ล้านบาท เท่ากับรัฐจะมีกำไรถึง 900 ล้านบาท

"ข้อมูลดังกล่าวรัฐบาลรับทราบทั้งหมด พร้อมทั้งยืนยันความพร้อมถึงร้อยละ 90 ในการเข้ามาบริหารและความถูกต้องในแง่กฎหมาย ที่ให้กรมประชาสัมพันธ์เป็นนายสถานี และว่าจ้าง บมจ.อสมท เข้ามาบริหาร จึงไม่มีเหตุผลใดที่รัฐบาลจะระงับการออกอากาศ เพราะมีกระแสต่อต้านจากขบวนการของสื่อบางรายที่จ้องหาผลประโยชน์

รวมถึงบุคคลบางกลุ่มที่ฉวยโอกาสจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โจมตีบิดเบือนข้อมูล และให้ความจริงกับประชาชนเพียงครึ่งเดียว เพื่อให้มีการปิดสถานี และเตรียมพร้อมในการเข้ามาดำเนินการต่อ"

ทั้งนี้ กลุ่มพนักงานไอทีวี เห็นว่าหากการบิดเบือนข้อมูลโจมตีเพื่อต้องการให้ปิดสถานีแห่งนี้ มาจากเหตุผลเพื่อต้องการเอาชนะ หรือหวังผลทางการเมือง ก็ไม่ควรดึงพนักงานและองค์กรแห่งนี้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง มาเป็นเครื่องมือทางการเมือง เพื่อปูทางเข้าไปแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัว

"จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลตั้งหลักและแสดงความชัดเจนในการตัดสินใจ เพื่อที่จะคงไว้ซึ่งความถูกต้อง บนพื้นฐานที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกกล่าวหาว่าบริหารงานภายใต้อิทธิพลและการครอบงำของสื่อมวลชนบางราย ซึ่งอาจเป็นรายเดียวกับที่ทำให้ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่ง"

แถลงการณ์ของกลุ่มพนักงานไอทีวีระบุในที่สุด

จาก หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ