'ชวนนท์'ซัด'เพื่อไทย'ตั้งทีมวอร์รูมเป่าหู ล้างสมองประชาชน ด้าน'วิปค้าน'จ้องถล่ม กม.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ขู่รัฐไม่ส่งเอกสาร ก่อนถกวุ่นวายแน่
22 มี.ค.56 นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวว่าพรรคเพื่อไทยได้ตั้งทีมวอร์รูมเพื่อรับมือกับประเด็นร้อนแรงทางการเมือง 3 เรื่อง คือ การแก้รัฐธรรมนูญรายมาตรา พรบ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท และคดีข้อพิพาทปราสาทพระวิหาร ว่า เป็นเรื่องดีที่รัฐบาลพร้อมอธิบายประเด็นที่เป็นที่สนใจของประชาชน แต่ตนเกรงว่าการตั้งทีมวอร์รูมนั้นอาจมีวัตถุประสงค์ที่ไม่ใช่การนำเสนอข้อเท็จจริงที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน แต่อาจเป็นการตั้งทีมงานขึ้นมาเป่าหู ล้างสมองประชาชน ให้เห็นดีเห็นงามไปกับการทำงานของรัฐบาล ดังนั้นตนจึงเห็นว่าการจะตั้งทีมยุทธศาสตร์ หรือสารพัดโฆษกมาคอยชี้แจงตอบโต้ ก็ไม่สำคัญเท่ากับความจริงใจของรัฐบาล และพรรคเพื่อไทย ในการปฏิบัติหน้าที่เพราะหากการทำงานเป็นไปเพื่อผลประโยชน์ของประชาชน อย่างแท้จริงแล้ว ประชาชนย่อมสนับสนุน
นายชวนนท์ กล่าวต่อว่า ตนขอตั้งข้อสังเกตว่าในกรณีของการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น มีหลายประเด็นที่ชวนให้ตั้งข้อสงสัยไม่ว่าจะเป็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 ซึ่งอาจมีการตัดคำว่า “อธิปไตยนอกอาณาเขต” ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการเจรจาระหว่างประเทศ ในพื้นที่ที่ไม่ได้เป็นแผ่นดินหรือพื้นที่ทางทะเล การตัดช่องทางการร้องเรียนต่อศาลรัฐธรรมนูญโดยตรงของประชาชน ก็อาจส่งผลกระทบถึงร่างรัฐธรรมนูญ ที่จะมีการแก้ไขมาตรา 291 ซึ่งจะเป็นการล้มล้างทั้งฉบับ ส่วน พรบ..กู้เงินฯ นั้นก็ยังไม่เห็นว่าจะมีความจำเป็นต้องจัดเป็นเงินกู้นอกงบประมาณ หรือวิธีการประมูลโครงการใหญ่ๆ ซึ่งมีข่าวว่าจะให้เอกชนรายเดียวเป็นผู้รับผิดชอบ การแก้ไข พรบ.ร่วมทุนระหว่างภาครัฐกับเอกชน รวมถึงรายละเอียดโครงการต่างๆ ก็ไม่มีความชัดเจน คลุมเครือ ไม่สามารถตรวจสอบได้ และประการสุดท้ายเรื่องคดีปราสาทพระวิหาร ที่รัฐบาลต้องมีความจริงใจที่จะเปิดเผยข้อมูลต่อประชาชน อย่ามีท่าทีโอนอ่อนตามประเทศกัมพูชาเหมือนที่ผ่านมาสิ่งเหล่านี้ล้วนมีคำถามของผลประโยชน์ทับซ้อนของคนในรัฐบาล อยู่ทั้งสิ้น
“ผมจึงเห็นว่า การจัดตั้งวอร์รูม หรือเปลี่ยนทีมโฆษกฯ ไม่ใช่สาระของการทำให้ประชาชน เกิดความไว้วางใจ แต่เป็นเรื่องของผลงานและข้อเท็จจริงที่ปรากฎเท่านั้น ที่จะสามารถยืนยันว่ารัฐบาล ทำงานเพื่อผลประโยชน์ของประชาชน และประเทศมากกว่าผลประโยชน์ส่วนตัว หรือผลประโยชน์ทับซ้อนในครอบครัว และคนใกล้ชิดเท่านั้น”นายชวนนท์ กล่าว