ปธ.สภาฯรับบรรจุร่างนิรโทษกรรมฉบับ42ส.ส.

นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ตนได้ลงนามให้บรรจุร่างร่าง พ.ร.บ. นิรโทษกรรมแก่ผู้ซึ่งกระทำความผิดเนื่องจากการชุมนุมทางการเมือง การแสดงออกทางการเมืองของประชาชน พ.ศ. ที่เสนอโดยนายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ และส.ส.พรรคเพื่อไทย 42 คน เรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะเป็นเรื่องที่เสนอให้พิจารณาใหม่ และอยู่ถัดจากเรื่องที่เสนอให้พิจารณาใหม่ลำดับสุดท้ายคือ ร่างพ.ร.บ.ปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม ส่วนจะขอให้เลื่อนขึ้นมาพิจารณาหรือไม่เป็นเรื่องของสมาชิกตนไม่มีอำนาจที่จะสั่งการ หากไม่มีสมาชิกคนใดขอเสนอหรือเห็นด้วยเรื่องก็ยังคาไว้ โดยขณะนี้ใกล้ปิดสมัยประชุมสามัญนิติบัญญัติ ในวันที่ 18 เม.ย.นี้ อาจจะไม่ทันพิจารณาในสมัยประชุมนี้

เมื่อถามว่าประเด็นที่สภาฯจะพิจารณากฎหมายนี้จะขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 122 หรือไม่ ที่ห้ามส.ส.กระทำการโดยมีการขัดกันแห่งผลประโยชน์ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า

การเสนอกฎหมายในฐานะสมาชิกสามารถทำได้อยู่แล้วตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 142 และที่สำคัญมาตรา 3 วรรคสอง ที่ระบุว่าการนิรโทษกรรมจะไม่รวมถึงการกระทำใดๆของผุ้ที่มีอำนาจในการตัดสินใจหรือสั่งการให้มีการเคลื่อนไหวทางการเมือง แสดงว่านายวรชัย ไม่ได้เสนอกฎหมายเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง เมื่อถามย้ำว่าประเด็นแกนนำยังไม่ได้ระบุว่าหมายถึงใครบ้างและอาจต้องมีการตีความ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ทุกคนเขารู้ว่านายวรชัย เป็นแกนนำเพราะได้ขึ้นเป็นแกนนำบนเวทีเป็นสิ่งที่ชัดเจน ถามอีกว่าหากที่ประชุมสภาพิจารณาเรื่องนี้ จะทำให้เป็นชนวนขัดแย้งรอบใหม่หรือไม่ นายสมศักดิ กล่าวว่า ตนไม่ทราบ

ด้านนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 กล่าวว่า ตนสนับสนุนในแนวทางที่วิปรัฐบาลยับยั้ง ยังไม่ให้เลื่อนร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ขึ้นมาพิจารณา

เพราะอาจจะนำไปสู่ความไม่ปรองดองได้ อีกทั้งร่างกฎหมายนิรโทษกรรมของนายวรชัย ยังไม่ตอบโจทย์การนำไปสู่ความปรองดองได้ ทั้งนี้สังคมได้มองว่าร่างกฎหมายดังกล่าวจะเป็นจุดสร้างความขัดแย้งมากกว่า ดังนั้นในแนวทางสร้างความปรองดองได้ควรเป็นการออกฎหมายที่รับฟังความเห็นทุกฝ่าย ส่วนการเสนอร่างกฎหมายของนายวรชัยนั้นถือว่าทำได้ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดเพราะเป็นเอกสิทธิ์ของส.ส. แต่ในขึ้นตอนของการพิจารณาอาจไม่เหมาะสม เพราะนายวรชัยเป็นผู้มีส่วนได้เสีย