"ธาริต-วัชระ" ซัดกันนัวผ่านสื่ออีกรอบ อ้างเเต่ละฝ่ายพูดเท็จ
วันที่ 14 มี.ค.56 นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) กล่าวในรายการเจาะลึกทั่วไทยอินไซด์ไทยเเลนด์ เอฟเอ็ม97เมกะเฮริทซ์กรณีวันที่14มี.ค. คณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองการสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายศุภชัย ศรีหล้า ส.ส.อุบลราชธานี พรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธาน ได้เชิญนายธาริตเข้าชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับชายชุดดำในเหตุการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองในช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค.2553 เเละนายธาริตวอล์คเอาต์จากที่ประชุมเพราะปะทะคารมกับนายวัชระ เพชรทอง รองประธานกมธ.ชุดนี้ที่ไล่สอบถามนายธาริตเรื่องชายชุดดำ
โดยนายธาริตกล่าวว่า การทำหน้าที่ของกมธ.นั้น กมธ.เเต่ละชุดมีกรอบอำนาจหน้าที่ตามข้อบังคับการประชุมสภาผู้เเทนราษฎร เเต่กมธ.ชุดนี้นั้นชื่อของกมธ.ไม่เกี่ยวกับคดีเเละข้อบังคับการประชุมนั้น ตนอ่านเเล้วพบว่าไม่มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับการขอให้เจ้าหน้าที่รัฐไปชี้เจงเกี่ยวกับคดีความเลย ตนเคยโต้เเย้งไปครั้งเเรกเเล้วว่าหนังสือที่กมธ.ส่งมาขอให้ตนไปชี้เเจงรายละเอียดคดีชายชุดดำ เเละการปฏิบัติการในศอฉ.ไม่ตรงกับอำนาจหน้าที่ของกมธ.ชุดนี้ เเต่กมธ.ยังส่งหนังสือเรียกตนมาอีกครั้ง ตนจึงไปชี้เเจงเเละโต้เเย้งโดยระบุว่า ตนกับกมธ.ควรทำตามกฎหมาย เเต่ประธานกมธ.ยังยืนยันเเละขอให้ตนชี้เจงโดยเฉพาะเรื่องชายชุดดำ
เเต่กรณีนี้ดีเอสไอดำเนินคดีชายชุดดำกับรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เเละย้ำว่าดีเอสไอไม่เคยพูดถึงชายชุดดำ ตนเคยพูดเพียงคำว่ากองกำลังไม่ทราบฝ่ายเเละหากเเปลคำพูดของตนในข้อความข้อต้นว่าเป็นชายชุดดำตนไม่เห็นด้วย เพราะนายอภิสิทธิ์เเละนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกฯฟ้องตนกับดีเอสไอในคดีชายชุดดำ ตนเรียนไปว่ากรณีนี้จะมีความได้เปรียบ-เสียเปรียบในรูปคดีกับเเกนนำพรรคประชาธิปัตย์สองคน เเต่นายวัชระยืนยันจะเปิดคลิปวีดีโอ ตนโต้เเย้งเเละเเจ้งนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้เเทนราษฎรว่ากมธ.ชุดนี้ทำเกินอำนาจหน้าที่เเละตนขอไม่ชี้เเจง วันนี้ตนเป็นลูกไล่ฝ่ายการเมืองตลอดเเบบนี้มันเกินไป
ด้านนายวัชระกล่าวว่า กมธ.ไม่ทำหน้าที่เกินขอบเขต หากนายธาริตยังตีความกฎหมายตื้่นๆ ได้ว่า การชี้เเจงอยู่ใต้อำนาจหน้าที่ของกมธ.หรือไม่เพียงเท่านี้นั้น การทำหน้าที่ของกรมนี้มีปัญหาเเน่ เพราะตนทำตามรัฐธรรมนูญ มาตรา135 ไม่ก้าวล่วงสำนวน กมธ.ส่งหนังสือระบุชัด 3 เรื่อง ให้นายธาริตมาชี้เเจงเเละไม่ก้าวล่วงสำนวนคดีเเต่กมธ.ต้องการทราบความคืบหน้าของคดีจากนายธาริตในฐานะกรรมการศอฉ.
ยืนยันว่าธาริตให้การเท็จกับกมธ.ว่าไม่มีชายชุดดำ เเละอ้างว่ามีเเต่กองกำลังไม่ทราบฝ่าย ตนทราบว่านายธาริตเคยลงนามในสำนวนคดีอาญาเลขที่18/2553ถึงอัยการสูงสุดโดยอ้างถึงชายชุดดำ นายธาริตวิตกจริตเพราะกมธ.พิจารณาตั้งเรื่องนี้เเต่เดือนก.ย.2555 เเละสิ่งที่นายธาริตอ้างว่าประธานกับตนไม่เป็นกลางเพราะอยู่พรรคประชาธิปัตย์นั้น ที่ผ่านมากมธ.ได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายตั้งเเต่พรรคเพื่อไทยที่ส่งพล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก กับ นพ.เหวง โตจิราการ มาชี้เเจง กองทัพบกส่ง พ.อ.สรรเสริญ เเก้วกำเนิด มาชี้เเจง คอป.ส่งนายคณิต ณ นคร เเละนายสมชาย หอมละออ เเละรวมทั้งตัวเเทนสื่อต่างๆ มาชี้เเจง
โดยในการชี้เเจงนั้นนายธาริตมีสิทธิบอกว่าคำถามนี้่ไม่ตอบเพราะเป็นความลับทางราชการเเละเปิดเผยไม่ได้ เเล้ววันนั้นนายธาริตลุกหนีทำไมหากตนจะเปิดคลิป เมื่อนายธาริตยอมรับว่าเคยพูดจริงเเล้วตนจะเปิดเเต่นายธาริตไม่กล้าที่จะดูคลิปในสิ่งที่นายธาริตได้พูดในอดีต นายวัชระกล่าวว่า ส่วนสิ่งที่นายธาริตอ้างว่าตนถามยั่วว่าการมาชี้เเจงกับกมธ.นั้นสมัครใจหรือโดนบังคับมานั้น การถามเเบบนี้เพราะตรงนี้มีส่วนได้เสีย หากโดนบังคับการให้การนั้นจะไม่มีน้ำหนัก หากสมัครใจมาให้การนั้นจะมีน้ำหนัก ก่อนหน้านี้นายธาริตกล่าวหาว่า ตนจะขยี้ดีเอสไอนั้น ขอย้ำว่ากรมนี้เสื่อมเพราะนายธาริตที่เป็นปัญหา เเละวันนั้นนายธาริตกระเเทกตนว่าตนเป็นเเจ๊ก สแปโรว์(โจรกระจอกเเละโจรสลัด)เเต่ตนยินดีเพราะตนไม่ปล้นความยุติธรรมไปจากประชาชน