ศิริโชคมั่นใจกกต.รับรองคุณชาย

นายศิริโชค โสภา สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้งกรุงเทพมหานคร (กกต.กทม.) มีมติส่งคำร้องคัดค้านผลเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.

กรณีที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีต สว.สรรหา ยื่นคำร้องการโพสต์ภาพเผาบ้านเผาเมือง และข้อความในโซเซียลเน็ตเวิร์กให้กกต.กลาง วินิจฉัยชี้ขาดนั้น ว่า การแถลงข่าวของ กกต.กทม.นั้นอาจจะมีความสับสนมีความเข้าใจผิด ทำให้สังคมเกิดความเชื่อว่าจะมีใบเหลืองเกิดขึ้น ซึ่งในข้อกฎหมาย กกต.ท้องถิ่นมีอำนาจหน้าที่ในการกลั่นกรอง และแสดงความคิดเห็นกับเรื่องที่ได้รับการร้องเรียน ซึ่งไม่มีอำนาจว่าจะให้ใบเหลืองใบแดงหรือใบขาว เพราะอำนาจชี้ขาดอยู่ที่ กกต.กลาง ซึ่งข้อเท็จจริงเรื่องที่ กกต.กทม.รับมามีทั้งหมด 3 เรื่อง และได้ส่งให้ กกต.กลางวินิจฉัย โดยมีการรวมเรื่องของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์รวมเป็นเรื่องเดียวกันกับเรื่องของตน และอีกเรื่องเป็นกรณีของ นายเสรี วงษ์มณฑา นักวิชาการอิสระ ดังนั้นการที่คนเข้าใจว่ายกไปเรื่องหนึ่ง และให้ใบเหลืองเรื่องหนึ่งนั้นจึงไม่ใช่

นายศิริโชค กล่าวต่อว่า กรณีของตนมีความคลาดเคลื่อนในเรื่องของการสื่อสาร เพราะภาพที่ตนโพสต์นั้น ได้ระบุชัดว่า เป็นภาพตัดต่อ ไม่ได้กล่าวถึง พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทยเลย

แต่กล่าวถึงเหตุการณ์เผาบ้านเผาเมืองที่ศาลมีคำพิพากษาไปแล้ว และเหตุผลที่ตนต้องพูดถึงเรื่องดังกล่าว เพราะมีภาพ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ ปรากฏตัวบนรถหาเสียงด้วยเพราะไม่ว่า นายณัฐวุฒิ จะปรากฏว่าที่ไหน คนก็จะคิดถึงเรื่องเผาบ้านเผาเมือง ตนยืนยันว่า จะดูมุมไหนกรณีนี้ก็ไม่ผิดกฎหมาย เพราะไม่มีการไปบอกว่า อย่าไปเลือกใคร หรือให้ไปเลือกใคร และไม่ได้มีการกล่าวหาผู้สมัครว่าเผาบ้านเผาเมือง ขณะเดียวกันภาพที่กกต.ควรจะไปเล่นงานนั้น เป็นภาพตัดต่อ นายสมบัติ บัญชาเมฆ หรือบัวขาว นักมวยชื่อดัง ซึ่งเป็นการชักจูงให้คนเข้าใจผิด แล้วไปลงคะแนนเสียงให้เบอร์ 9 และภาพดังกล่าวก็มีที่มาที่ไปชัดเจนว่าเป็นเสื้อแดงคลับ หรือกรณีของภาพตัดต่อนายธงไชย แมคอินไตย์ หรือนายณเดช คูกิมิยะให้คนเข้าใจผิดว่าสนับสนุนเบอร์ 9 เป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายชัดเจน

ผมมั่นใจว่าไม่ผิดกฎหมาย เพราะการเลือกตั้งใหญ่ครั้งที่ผ่านมาเมื่อปี 2554 มีการโจมตีว่าพรรคประชาธิปัตย์ ฆ่าประชาชน เป็นพรรคฆาตกร ซึ่งมีการเขียนในเฟซบุ๊กของนายณัฐวุฒิ จนเป็นเหตุให้คะแนนเสียงของพรรคประชาธิปัตย์ มีปัญหาในช่วงการเลือกตั้งจากข้อกล่าวหาดังกล่าว ซึ่งกกต.กลาง ก็ได้วินิจฉัยว่าเป็นการแสดงความเห็นที่ชอบโดยรัฐธรรมนูญ ส่วนกรณีนายเสรี ก็ไม่เกี่ยวข้องกับพรรคประชาธิปัตย์ พรรคไม่เคยจ้างให้เป็นประชาสัมพันธ์ เป็นเพียงแค่คนที่ลงคะแนนให้พรรคและเปิดเผยอย่างชัดเจน ซึ่งถ้านายเสรีผิดคนอีกเป็นล้านก็ต้องผิด และคนที่โพสต์ข้อความ แสดงความเห็นว่าชอบเบอร์ 9 ก็ต้องผิดด้วย นายศิริโชค กล่าว

เมื่อถามว่า การที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯออกมาพูด ว่า จากการปราศรัยของพรรคประชาธิปัตย์ น่าจะโดนใบเหลืองหรือใบแดง และกกต.กทม.ก็แถลงข่าวคลุมเครือทำให้เกิดความสงสัยนั้น นายศิริโชค กล่าวว่า

เป็นสิ่งที่สังคมควรออกมาตำหนิ เพราะ ร.ต.อ.เฉลิม เป็นรองนายกฯ ไม่ควรทำเกินหน้าที่ของตัวเองในการชี้นำสังคม เพราะเรื่องยังอยู่ในกระบวนการยุติธรรมที่ กกต.กำลังพิจารณาอยู่ และอยากขอร้อง กกต.กทม.ว่าเวลาให้สัมภาษณ์ควรจะยึดกรอบของกฎหมาย เพราะเวลาพูดอะไรไปแล้วคนอาจจะตีความผิด และหากไม่ยึดตามข้อกฎหมายก็อาจจะทำให้มีความสับสนในเรื่องข้อมูลได้

เมื่อถามอีกว่า พรรคประชาธิปัตย์หวั่นหรือไม่ที่อาจจะมีการเลือกตั้งใหม่นั้น ตนไม่หวั่นใจ เพราะเราเชื่อมั่นว่าทำถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ เพราะถ้า กกต.จะมีการให้เหลืองใบแดง ก็จะต้องมีการเรียกผู้ถูกกล่าวหาไปชี้แจงก่อน แต่กกต.กทม.ไม่มีการเรียกตนไปชี้แจงนั้น ตนก็เชื่อว่า กกต.กทม.จะวินิจฉัยไปในทางตรงกันข้ามกันที่เป็นข่าวทั้งนี้ตนมั่นใจเกิน 100% ว่า กกต.จะรับรอง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ เป็นผู้ว่าฯ กทม. และหาก กกต.รับรองเสร็จอยากให้ ร.ต.อ.เฉลิม งดให้สัมภาษณ์เพิ่มอีก 20 วัน