“สภาล่ม”ซ้ำซาก เหตุส.ส.เสียบบัตรแทนกัน

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายเจริญ จรรย์โกมล รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ในระหว่างพิจารณานร่างพ.ร.บ.มหาวิทยาลัยสวนดุสิต พ.ศ.ซึ่ง ครม.เป็นผู้เสนอ โดยมีสาระสำคัญคือการนำมหาวิทยาลัยออกนอกระบบ ซึ่ง ส.ส. ฝ่ายค้านและรัฐบาล อภิปรายให้ความเห็นในทิศทางเดียวกันว่าควรจะนำร่างกลับไปทบทวนใหม่ให้รอบคอบกว่านี้ ส.ส.ฝ่ายค้านมีการพาดพิงถึงความไม่น่าเชื่อถือของสถาบัน ในประเด็นการทำโพลล์ผลการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ที่ผ่านมา 

        ไม่มั่นใจว่าหากให้มหาวิทยาลัยออกนอกระบบแล้ว จะทำให้คุณภาพงานวิจัยเป็นมาตรฐานและได้รับการยอมรับหรือไม่ ส่วนส.ส.พรรคเพื่อไทย มองว่าไม่ควรนำออกนอกระบบเพราะสถาบันมีความเข้มแข็งทั้งทางวิชาชีพและธุรกิจ เป็นต้น ทั้งนี้ภายหลังการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง เมื่อเวลา 16.00 น. ประธานในที่ประชุมได้ปิดการอภิปรายและขอให้มีการลงมติ 

       โดยก่อนการลงมติจะต้องให้สมาชิกเสียบบัตรแสดงตน ปรากฎว่ามี ส.ส.แสดงตน 265 คน ทำให้น.ส.รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม พรรคประชาธิปัตย์ ลุกขึ้นประท้วงทันทีว่า ดูด้วยสายตาจำนวนไม่ถึง ขอให้นับองค์ประชุมใหม่เป็นรายบุคคล แต่นายเจริญ เลือกที่จะให้มีการเสียบบัตรแสดงตนใหม่ แต่ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ อาทิ นายณัฐฎ์ บรรทัดฐาน ส.ส. กทม. นายนิพนธ์ วิสิษฐยุทธศาสตร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ได้ลุกประท้วง แต่นายเจริญ ยังยืนยันที่จะใช้สิทธิ์ของประธานในที่ประชุม ให้มีการเสียบบัตรตามเดิมเพราะมองด้วยสายตาแล้วน่าจะครบจำนวน

       แต่ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ไม่ยอมจนทำให้นายเจริญ ต้องสั่งให้เจ้าหน้าที่ในห้องประชุมนับส.ส.ที่นั่งอยู่ในห้องแบบรายหัวและขอให้ปิดประตูห้องประชุมสภาด้วย ปรากฎว่า มีส.ส.อยู่ในห้องประชุมเพียง 121 คนถือว่าไม่ครบองค์ประชุม ทำให้นายเจริญ ต้องสั่งปิดการประชุมทันที ในเวลา 16.05 น.

       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่มีการเปิดประชุมสภาสมัยสามัญนิติบัญญัติ ตั้งแต่วันที่ 21 ธ.ค.55 เป็นต้นมา เคยเกิดปัญหาเหตุการองค์ประชุมไม่ครบหลายครั้ง แต่ผู้ที่ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมได้ชิงปิดประชุมสภาไปก่อนเวลา ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ถือว่าองค์ประชุมล่มครั้งแรกในสมัยประชุมนี้