'โอ๊ค' โพสต์เฟซบุ๊ก 'ปชป.' ชนะลต.ผู้ว่าฯเพราะความกลัว สวน ลต.ครั้งหน้า 'ปชป.' แสดงเจตจำนงเป็นฝ่ายค้าน หากเสนอเป็นรบ. เท่ากับกลืนน้ำลายวาทกรรม 'ผูกขาดประเทศไทย'
โอ๊ค - พานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กส่วนตัว Oak Panthongtae Shinawatra ถึงการเลือกตั้งผู้ว่าราชการ กทม. ที่เสร็จสิ้นไปว่า กราบขอบพระคุณทุกคะแนนเสียงที่มีให้กับเบอร์ 9 ครับ พวกเราทุกคนทำดีที่สุดแล้วครับ ทั้งตัวผู้สมัครฯเอง แรงเชียร์จากผู้สนับสนุนกลุ่มต่างๆ การมีส่วนร่วมของคนในพรรคฯ ผมบอกอย่างมั่นใจเลยว่า ทุกภาคส่วนได้ร่วมแรงร่วมใจกันอย่างดีที่สุดแล้ว ถึงแม้เราจะไม่ได้เป็นผู้ชนะ"
ผมนึกถึง สิ่งที่คุณสุหฤทฯผู้สมัครเบอร์17 ได้พยายามบอกกับชาวกรุงเทพฯ อยู่ตลอดเวลาว่า เชื่อแบบเดิม เลือกแบบเดิม ได้กรุงเทพฯแบบเดิม ผมเชื่อว่าคนกรุงเทพฯส่วนใหญ่ ไม่ได้ชอบแบบเดิมหรอกครับ ใครจะไปเชื่อว่าคนกรุงเทพฯจะชอบ กล้องดัมมี่, หรือชอบสนามฟุตซอลที่จนถึงป่านนี้ก็ยังสร้างไม่เสร็จ หรือแม้กระทั่งการรีทัชคนเสื้อแดง
ให้กลายเป็นใส่เสื้อเขียวไปเชียร์ผู้ว่าฯ
"ผมเชื่อว่า คนกรุงเทพฯอยากได้กรุงเทพฯแบบใหม่ แต่จำใจต้องเลือกแบบเดิมเพราะความกลัว" และ "ผมไม่เชื่อว่า คนกรุงเทพฯ จะประทับใจผลงานของผู้ว่าฯสุขุมพันธุ์ ถึงขนาดหาคะแนนเพิ่มได้จาก แปดแสน เป็นล้านสอง"ครับ วันนี้ตอนที่หย่อนบัตรเลือกตั้งเสร็จ นักข่าวมาสัมภาษณ์ ผมได้บอกว่า รักใครชอบใครก็ขอให้เลือกคนนั้น อย่าเลือกคนใดคนหนึ่ง เพียงเพราะความกลัว ซึ่งผมหมายถึงความกลัวแบบไม่มีเหตุผล หรืออาจพอมีบ้าง แต่เมื่อมีคนมาพูดจาให้รู้สึกกลัวจนเกินกว่าเหตุ คนเราจะเกิดความตระหนกและตัดสินใจผิดพลาด อย่างที่เรารู้กันดีก็เช่น การกลัวผี, กลัวความมืด เป็นต้น"
ในทางการเมืองความกลัวแบบนี้ ถูก"ผู้ช่ำชองในการเลือกตั้ง" นำมาใช้ในลักษณะ Negative Campagne (หาเสียงทางด้านลบ) จนประสบผลสำเร็จมาโดยตลอด เช่น จำลองพาคนไปตาย, ไม่เลือกเรา เขามาแน่ ฯลฯ จนถึงครั้งนี้ก็สำเร็จเช่นกันคือ "เลือกผู้ว่าฯ คนละพรรคกับรัฐบาล เพื่อป้องกันการผูกขาดประเทศ" ตามด้วยการบีบไม่ให้ประชาชน เลือกผู้สมัครที่ตนชื่นชอบแต่โอกาสชนะน้อย
โดยใช้เหตุผลว่า ไม่ให้เสียงแตก จึงทำให้คะแนนอันดับ3 มีเพียงแสนกว่าคะแนน ขณะที่ ที่1และที่2 ทะลุล้านทั้งคู่!! ในภาพรวมของทั้งประเทศ ผมว่าก็ดีเหมือนกันครับ เพราะอีก2ปีกว่าๆ จะมีการเลือกตั้ง สส.กันอีกครั้ง พรรค ปชป.ซึ่งชนะเลือกตั้งผู้ว่าฯในครั้งนี้ จะต้องแสดงสปิริต โดยแสดงเจตจำนง ที่จะมุ่งหน้าเป็นฝ่ายค้านเพียงอย่างเดียว เพราะถ้าปชป.เสนอตัวเองเป็นรัฐบาลเมื่อไหร่ จะเป็นการกลืนน้ำลายตัวเอง เพราะ ปชป.พูดไว้เองว่า การที่ผู้ว่าฯกับนายกฯอยู่พรรคฯเดียวกันนั้น เป็นการ"ผูกขาดประเทศไทย รอดูกันว่าในการเลือกตั้ง สส. ครั้งหน้า หากพรรคประชาธิปัตย์ เกิดอยากเป็นรัฐบาลขึ้นมา จะ 'รีทัช-ตัดต่อ' คำพูดของตัวเอง ที่หลอก 'กินเปล่า' คะแนนจากคนกรุงเทพฯในครั้งนี้ ว่าอย่างไรครับ