´เติ้ง´ ติง ´อุ๋ย´ ไขก๊อกผิดเวลา นายกฯไม่ทันตั้งตัว

´เติ้ง´ ติง ´อุ๋ย´ ไขก๊อกผิดเวลา นายกฯไม่ทันตั้งตัว


ที่พรรคชาติไทย นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการลาออกของม.ร.ว.ปรีดียาธร เทวกุล อดีตรองนายกฯและรมว.คลังว่า ตนเคยคุยกับ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร มาแล้วประมาณเดือนเศษ เคยบ่นให้ฟังว่ามีความอึดอัด ซึ่งตนได้ให้ข้อคิดไปว่าการเข้ามาทำงานในตำแหน่งรองนายกฯ คุมกระทรวงเศรษฐกิจ รมว.คลังนั้นสำคัญมาก จึงต้องใช้ความอดทน และไม่ว่าเจอเรื่องอะไร เช่น หวยบนดิน ตนก็ได้ให้กำลังใจ


นายบรรหาร กล่าวว่า


ความจริง ม.ร.ว.ปรีดิยาธรเป็นคนมีความรู้ความสามารถไม่ด้อยไปกว่านักเศรษฐกิจหลาย ๆคน แต่เมื่อลาออกแล้วก็เห็นใจ เพราะมีความอึดอัด ไม่สามารถทำงานต่อไปได้ แต่ตนก็ขอติงเพียงนิดเดียวว่าไม่เหมาะสม

เนื่องจากควรจะให้โอกาสกับ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกฯสักระยะ เพื่อให้หาคนที่จะมาแทนในตำแหน่งนี้ได้ก่อนแล้วค่อยลาออกไป แต่เมื่อลาออกกระทันหันเช่นนี้ก็สร้างความลำบากใจให้กับพล.อ.สุรยุทธ์เกิดความไม่สบายใจมาก

"ถ้านายกฯจะตั้งรองนายกฯและรมว.คลังขึ้นมาใหม่ ควรจะหารือกับทีมเศรษฐกิจว่าคนที่จะเข้ามาใหม่นี้ทำงานไปด้วยกันได้หรือไม่ เพราะถ้าตั้งไปแล้วทำงานไปด้วยกันไม่ได้ ปัญหาก็จะเกิดอีก มีการลาออกขึ้นอีก เพราะการเป็นรัฐบาลจะคิดตั้งตำแหน่งใดก็แล้วแต่จะคิดคนเดียวไม่ได้

ดังนั้น ต้องหารือกับทีมเศรษฐกิจแล้วประคองเอาไว้ ผมเสียดายที่ใบลายับยั้งไม่ได้ ความจริงนายกฯควรจะยับยั้ง แล้วเรียกหม่อมอุ๋ยมาพูดคุยกันอีกครั้ง และเมื่อรู้ว่ามีปัญหาอะไรนายกฯก็ต้องช่วยแก้ไข

แต่เมื่อยับยั้งไม่ได้ รมว.คลังก็ยังพอมีอยู่ เพราะในระยะไม่กี่เดือนนี้คงไม่มีใครอยากมา เพราะมาแล้วเขาก็จะถูกกระแสหลาย ๆด้าน ซึ่งผมมองดูแล้วคิดว่าน่าจะมีตัวที่จะเข้ามาแทน" นายบรรหาร กล่าว


เมื่อถามว่าเหตุผลกรณีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ที่ลาออกไปฟังขึ้นหรือไม่


นายบรรหาร กล่าวว่า เมื่อนายสมคิดลาออกแล้วเรื่องก็น่าจะจบไปแล้ว ไม่ควรนำมาคิดเป็นประเด็น เพราะถ้าด้วยเหตุผลนี้ม.ร.ว.ปรีดิยาธรก็น่าจะลาออกไปเสียตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว ส่วนเรื่องสื่อที่ท่านพูดถึงนั้นตนก็ไม่ทราบข้อเท็จจริงว่ามีปัญหาอะไร

"การทำงานในขณะนี้ เพื่อประเทศชาติทั้งหมดต้องใช้ความอดทน ผมอยากให้กำลังใจพล.อ.สุรยุทธ์ ต้องใช้ความอดทนอย่าเพิ่งท้อ เพราะเมื่อเข้ามาสู่การเมืองเพียงชั่วคราวเช่นนี้ มันย่อมมีมรสุมมากพอสมควร เพราะมีปัจจัยกระทบหลายด้าน

เช่น อำนาจของรัฐบาลเก่า การเลือกตั้งที่จะมีต่อไป การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ การทำงานของครม.ที่ยังไม่รวดเร็ว ยังไม่ทันต่อเหตุการณ์ ซึ่งนายกฯน่าจะเข้มกับรัฐมนตรีแต่ละคน ให้ทำงานมากขึ้น และเร็วกว่านี้อีก 2 เท่า และประชาสัมพันธ์งานให้มากกว่านี้ ชี้แจงปัญหาต่าง ๆให้ชัดเจน" นายบรรหาร กล่าว


นายบรรหาร กล่าวว่า ตนเห็นว่าไม่ควรปรับครม.ใหญ่


เพราะเหลือเวลาเพียงไม่กี่เดือน ปรับเท่าที่ขาด เพราะรัฐมนตรีที่มีอยู่เดิมหลายคนก็ใช้ได้ เพียงแต่อายุแต่ละคนอาจมากไปหน่อย ทำงานช้าไปนิดก็ต้องกระตุ้นให้เร็วขึ้น

อย่างไรก็ตาม ขอให้ช่วยกันให้กำลังใจนายกฯและประธานคมช. เพราะเข้ามาในยามวิกฤต มาช่วยบ้านเมืองอย่างนี้ก็ต้องพยายามให้เดินหน้าต่อไป ให้มีการร่างรัฐธรรมนูญโดยเร็วที่สุด เพื่อให้มีการเลือกตั้งภายในปี 2550 และจะคลี่คลายทางการเมืองได้อย่างดี



ขอขอบคุณ : ข้อมูลข่าวที่มีคุณภาพ

จาก หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์