“โอ๊ค” โพสต์ฉะพรรคคู่แข่งตัวถ่วงความเจริญการเมืองไทย

หลังตำรวจ สน.พหลโยธินจับกุมนายหทัยวุฒิ สายทอง อายุ 45 ปีขณะนำสติกเกอร์มีข้อความอาทิ "ไม่เลือกผู้ว่าสร้างภาพ" "เผาบ้านเผาเมือง" และ"ทักษิณติดคุก" นำไปติดที่ป้ายหาเสียงของพล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หมายเลข 9 โดยจับกุมได้

               นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เขียนข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก ว่า โค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งผู้สมัครฯแต่ละท่านมักจะโชว์จุดขายที่ตัวเองคิดว่าดีที่สุด ผู้ที่คิดไปว่าสิ่งที่ตัวเองเคยทำไว้นั้นเป็นที่ประทับใจคนกรุงเทพฯ อย่างหามิได้และยืนยันที่จะยึดแนวทางการทำงานแบบเดิมๆของตน แคมเปญก็จะออกมาเป็นทำแล้ว ขอทำต่อ ผู้ที่เห็นว่าการบริหารงานของ กทม.ที่ผ่านมายังไม่ได้เรื่อง ตนเองน่าจะเป็นนักบริหารที่สามารถทำในสิ่งที่ดีกว่าเดิม ให้กับชาวกทม.ได้ แคมเปญก็จะออกเชิญชวนให้ร่วมกันเปลี่ยนกรุงเทพฯ หรือบางแคมเปญก็เป็นเชื่อแบบเดิม เลือกแบบเดิม ได้กรุงเทพฯแบบเดิม

               นายพานทองแท้ ระบุต่อว่า ผู้ที่เห็นว่า กทม.กับรัฐบาลควรร่วมมือกันทำงานเพื่อพี่น้องประชาชน อย่างแท้จริงเสียที เลิกโยนความผิดให้กับพรรคอื่นได้แล้ว ก็จะเสนอแคมเปญเป็นหยุดขัดแย้งการเมือง มุ่งเรื่องปากท้องคนกรุง สำหรับผม แน่นอนว่าแคมเปญทำงานร่วมกับรัฐบาลแบบไร้รอยต่อ ของพล.ต.อ.พงศพัศ โดนใจสุดๆครับ

              เพราะผมเชื่อว่าหากผู้ว่าฯ กทม.ทำงานแบบวันแมนโชว์หรือสามารถประสานได้แต่ฝ่ายค้าน ไม่ยอมประสานกันรัฐบาลแบบกลมเกลียวกันแล้ว ไม่มีทางที่กทม.จะเจริญก้าวหน้าได้อย่างเต็มที่เพราะ ไร้รอยต่อ = ไร้เงื่อนไขทางการเมือง = ไร้ความขัดแย้ง การหาเสียงในเชิงสร้างสรรค์ เป็นสิ่งที่เราควรสนับสนุนครับ ก็หวังว่าในโค้งสุดท้าย จะไม่มีการหาเสียงสไตล์การเมืองน้ำเน่าในอดีต ประเภทส่งคนไปตะโกนในโรงหนังว่าปรีดีฆ่าในหลวง หรือออกแคมเปญประเภท จำลองพาคนไปตาย, ไม่เลือกเราเขามาแน่ หรือขโมยคะแนนเสียงผู้สมัครฯท่านอื่น ที่อุตส่าห์เดินหาเสียงมาเป็นเดือนๆ มาเป็นของตัวเองหน้าตาเฉย ด้วยข้ออ้างให้เสียงแตก หาเสียงในสไตล์คุ้นๆ แบบที่ผมว่าไว้ในตอนท้ายนี้แหละ ที่เป็นตัวถ่วงความเจริญของการเมืองไทยครับ