อภิรักษ์ ยันไม่เคยแก้ไขL/C วัลลภ อ้างพลาดขั้นตอน

"อภิรักษ์" ยันไม่เคยแก้ไข L/C ตามที่ "ศิธา" ระบุ ชี้ผลสอบของ คตส.ออกมาแล้ว ควรเคารพ ด้าน "วัลลภ" อ้างผิดพลาดขั้นตอนทำเรื่องขอเปิด L/C เจ้าหน้าที่ สปภ.ทำข้อความตกหล่นแต่แก้ไขแล้ว

นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) ให้สัมภาษณ์กรณีมีกระแสข่าวระบุว่า นายอภิรักษ์ทำการแก้ไขข้อความสำคัญในการเปิด L/C โครงการจัดซื้อรถดับเพลิง และอุปกรณ์บรรเทาสาธารณภัย ของ กทม. มูลค่า 6,687 ล้านบาท

โดยยืนยันว่า ตนไม่เคยแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อความใดๆ ใน L/C เนื่องจากเราคงจะไปแก้ไขอะไรไม่ได้ ข้อความทุกอย่างยังเหมือนเดิม ที่เคยระบุไว้ในสัญญาเดิมทั้งสิ้น หากจะมีการเปลี่ยนแปลง ก็เป็นสัญญาที่ กทม.ขอเจรจาต่อรองให้ บริษัทสไตเออร์ เดมเลอร์ พุค จำกัด ในฐานะคู่สัญญา ให้เพิ่มเติมสิทธิประโยชน์ต่างๆ กับ กทม.เท่านั้น

อีกทั้งเรื่องนี้ตนเห็นว่า ประเด็นดังกล่าวได้ผ่านการพิจารณาของ คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ(คตส.) แล้ว จึงไม่ขอออกความคิดเห็นมากนัก เพราะต้องเคารพในการพิจารณาของ คตส.ด้วย

อย่างไรก็ตาม หาก คตส.ติดใจในประเด็นดังกล่าว หรือจำเป็นที่จะต้องชี้แจงเพิ่มเติม ตนก็พร้อมที่จะชี้แจงในรายละเอียดให้ทราบอีกครั้ง

ส่วนการเตรียมเข้าหารือกับกระทรวงมหาดไทยนั้น ก็เพื่อขอรับทราบผลการพิจารณาของ คตส.อย่างเป็นทางการ รวมถึงพิจารณาถึงข้อกฎหมาย และกระบวนการร้องทุกข์กล่าวโทษร่วมกันต่อไป โดยภายในวันนี้ จะทำหนังสือไปถึงนายอารีย์ วงศ์อารยะ รมว.มหาดไทย เพื่อนัดประชุมหารือกันอย่างเร็วที่สุด

"ประเด็นเรื่อง L/C เป็นเรื่องที่ น.ต.ศิธา ทิวารี กล่าวหามาตั้งแต่เมื่อปีที่แล้ว และเรื่องนี้ คตส.ก็พิจารณาผ่านมาแล้ว ผมคิดว่าควรจะดูหน้าที่ในวันนี้ดีกว่า ซึ่งหน้าที่อะไรที่ต้องดำเนินการผมก็จะทำให้ดีที่สุด" ผู้ว่าฯกทม.ระบุ

สัญญาซื้อขายรถดับเพลิง ที่นายสมัคร สุนทรเวช อดีตผู้ว่าฯกทม.ทำไว้เมื่อวันที่ 27 ส.ค.2547 ในภาคผนวก 3.4 ระบุว่า "ผู้ขายสามารถส่งสินค้าจากท่าเรือ หรือท่าอากาศยานในยุโรป หรือในสถานที่ใดในประเทศไทย" แต่เมื่อถึงเวลาขอเปิด L/C กทม.ได้ขอให้ธนาคารกรุงไทย ทำหน้าที่ในการจ่ายเงินให้

ซึ่งในขั้นตอนที่เจ้าหน้าที่ ของสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(สปภ.) กทม. ทำเรื่องขอเปิด L/C มีความผิดพลาดเกิดการตกหล่นในคำว่า "ประเทศไทย" ซึ่งภายหลังธนาคารกรุงไทยและบริษัทสไตเออร์ฯ ตรวจพบจึงได้ส่งหนังสือให้ กทม.แก้ไขใหม่ จึงมีการแก้ไขกลับไปกลับมา เนื่องจากหากมีการตกหล่นจะทำให้สัญญา L/C เดินหน้าไปไม่ได้ทั้งฉบับ

อย่างไรก็ตามขอยืนยันว่า ข้อความในสัญญาทั้งหมด เป็นเรื่องที่ผู้ทำสัญญาเดิม ต้องการให้ส่งออกสินค้าจากพอร์ตใดในประเทศไทย เข้ามายังประเทศไทยเอง ซึ่งนั่นหมายถึงมีการตกลงกันไว้ตั้งแต่เริ่มโครงการ ในเรื่องเรือดับเพลิง สามารถผลิตในประเทศไทย คืออู่ซีทโบ๊ท พัทยา จ.ชลบุรี เพื่อไม่ให้บริษัทสไตเออร์ฯ ต้องเสียค่าระวางของ และขนส่งสินค้ากลับไปกลับมา

ส่วนความคืบหน้า การนำสินค้าออกจากท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรีนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการกับกรมศุลากรตามระเบียบวิธีการ เนื่องจาก กทม.เป็นห่วงเรื่องภาระภาษี โดยสินค้ามาถึงตั้งแต่วันที่ 6 ก.พ.ที่ผ่านมา จนขณะนี้ติดอยู่ที่ท่าเรือเป็นเวลา 20 วันแล้ว ซึ่งมีค่าใช้จ่ายพื้นที่วันละหลายหมื่นบาท

สาเหตุที่กทม.ไม่สามารถนำสินค้าออกจากท่าเรือได้นั้น เป็นเพราะติดปัญหายังไม่ตรวจรับสินค้า ตามที่กรมศุลากรได้ตอบกลับมา ซึ่งเรื่องนี้ กทม.กำลังจะหารือกับ รมว.มหาดไทย เรื่องการตรวจรับรถเพราะขณะนี้ คตส.ได้มีการพิจารณาชี้มูลเรื่องดังกล่าวออกมาแล้ว

จาก หนังสือพพิมพ์คม.ชัด.ลึก.