คมช.ต้องเคลียร์ 2ปมร้อน อุ๋ย

คมช.ต้องเคลียร์2ปมร้อน"อุ๋ย"


2 เหตุผลใหญ่ที่ หม่อมอุ๋ย ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ประกาศลาออกจากทุกตำแหน่งทางการเมืองมีผลในวันที่ 1 มีนาคม ทำให้มองเป็นอย่างอื่นไม่ได้ว่า นี่คือ อาการน้อยใจจนสุดทนแล้ว สำหรับการร่วมรัฐบาลนี้

1. รับไม่ได้ที่ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี แต่งตั้ง นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ คนจากรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร มาร่วมงาน

2. ไม่เห็นด้วยกับรัฐมนตรีบางคนในรัฐบาลชุดนี้ที่เอื้อประโยชน์กับสื่อมวลชนบางราย

นับเป็นการกล่าวถึงจุดอ่อนของรัฐบาล ที่ใครหลายคนก็พอจะมองเห็น เพียงแต่การพูดจาต้องป้องปาก ไม่อยากให้รู้ถึงหูคนที่สาม

แต่ว่า หม่อมอุ๋ย เอ่ยปากแบบไม่ต้องเกรงใจ ตรงไปตรงมา

คนที่เคยร่วมงานกับรัฐบาลทักษิณ ถึงจะถอนตัวออกไป ก็ไม่ได้แสดงให้เห็นว่า ตัดขาดอย่างแท้จริง เพราะสายสัมพันธ์ยังคงอยู่ จากตัวเชื่อมที่อยู่ในรัฐบาล


ถามว่า ใครคือตัวเชื่อมที่หม่อมอุ๋ยระบุ ?


ย้อนกลับไปที่การเข้ามา "ช่วย" งานรัฐบาลของ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ คนที่เคยเป็นมือขวาให้กับรัฐบาลทักษิณ นั้น มีการกล่าวถึง "สื่อ" และตัวเชื่อมภายในรัฐบาล ว่ามีส่วนสำคัญในการผลักดัน สมคิด เข้ามารับตำแหน่ง

ซึ่งการเข้ามาครั้งนั้น อาจจะมีจุดประสงค์เพื่อหวังปูทางไปสู่เก้าอี้อันยิ่งใหญ่ในอนาคตอย่างที่มีการคาดเดากันหรือไม่ เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

เพียงแต่ว่า มี "สื่อ" กับคนในรัฐบาล ที่ขณะนั้น วีระชัย วีระเมธากุล รองเลขาธิการนายกีรัฐมนตรี เป็นผู้ที่ถูกจับตา เนื่องจาก สายสัมพันธ์เก่าก่อนเมื่อครั้ง รุ่งเรืองอยู่กับรัฐบาลทักษิณ นั้น วีระชัย เคยรับตำแหน่ง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการคลัง ซึ่งขณะนั้น รมว.คลัง ก็คือ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์

วีระชัย มีบิดาชื่อ สุชัย นักธุรกิจใหญ่ที่มีสายสัพันธ์อันแนบแน่กับจีน และยังเป็นเจ้าของสนามกอล์ฟ รัลยัลกอล์ฟ คลับ ซึ่งแน่นอน เป็นเจ้าของหมู่บ้านที่นี่ ซึ่ง บ้านพักของพล.อ.สุรยุทธ์ เนื้อที่ประมาณ 2 ไร่ ก็อยู่ในภายหมู่บ้านแห่งนี้ด้วย

การเข้ามา "ช่วยงาน" ของ สมคิด ในขณะนั้น ดูเหทมือนว่า ไม่มีการปรึกษาหารือกับ หม่อมอุ๋ย มาก่อน

แม้จะเป็นอำนาจในการตัดสินใจของ นายกรัฐมนตรี อย่างที่ พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวยืนยัน แต่ในเรื่องมารยาททางการเมืองจะอย่างไรเสีย ก็เป็นเรื่องที่ "เหมาะ" และ "ควร" อย่างยิ่ง หากมีการบอกกล่าวทีมงานด้านเศรษฐกิจได้รู้ล่วงหน้า

สังเกตได้จากเมื่อสื่อถามถึงเรื่องนี้ในวันแรกๆ ที่มีการแต่งตั้ง สมคิด หม่อมอุ๋ย ก็ถามย้อนกลับมาว่า "สมคิดไหน ?"

และอีกครั้งเมื่อ หม่อมอุ๋ย พูดถึงเรื่องนี้ ก็เมื่อวันที่ สมคิด ประกาศลาออก หม่อมอุ๋ย ก็ใส่ทันทีว่า "ไม่ต้องตั้งใครมาอีก"

ส่วนรัฐมนตรีที่เอื้อประโยชน์ให้กับสื่อ และทำให้รัฐบาลนี้ตกอยู่ภายใต้แรงกดดันของสื่อบางสื่อนั้น หม่อมอุ๋ย ไม่ได้ระบุชัดว่า สื่อนั้นคือสื่อใด ? และรัฐมนตรีคนนั้น คือใคร ?

แต่รัฐมนตรีที่ทำหน้าที่เกี่ยวข้องกับสื่อ ดูแลสื่อของรัฐของรัฐบาลชุดนี้มีคนเดียวคือ นายธีระภัทร์ เสรีรังสรรค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

จะว่าไปแล้ว ตลอด 5 เดือนที่รัฐบาล ขิงแก่-ขะมิ้นอ่อน เข้ามาบริหารประเทศ แนวทางในด้านเศรษฐกิจถูกตั้งเป็นคำถามมาตลอด

มาตรการหลายมาตรการที่ออกมา ส่งผลลบมากกว่าบกว โดยเฉพาะ กรณีการตั้งเกณฑ์สำรองเงินลงทุนต่างชาติ 30% โดยอ้างว่าเพื่อแก้ปัญหาค่าเงินบาท


ทว่าเมื่อดัชนีหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ตกลงอย่างรุนแรงกว่า 100 จุด


ก็มีผู้มายอมรับว่า ไม่ได้คำนึงถึงผลกระทบที่มีต่อตลาดหุ้น

นักลงทุนฟังคำชี้แจงที่แสดงให้เห็นถึงระดับของ "ความรอบคอบ-รอบด้าน" เช่นนี้ ก็ได้แต่อึ้งและทึ่งว่าคิดแบบนี้ได้อย่างไร

นั่นอาจเป็นประเด็นหนึ่งที่ทำให้เวลาต่อมา เสียงคัดค้านการคงมาตรการกันสำรอง 30% เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งจากนักลงทุน โบรกเกอร์ และจากกหน่วยงานในระทรวงการคลัง

อย่างไรก็ตาม การลาออกของรัฐมนตรีคลังในภาวะที่สภาพเศรษฐกิจยังหาทิศทางไม่เจอย่อมส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์

มีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน สนช.ผู้ซึ่งผ่านร้อนผ่านหนาวทางการเมืองมานาน ถึงกับระบุว่า เป็นเรื่องใหญ่ และอาจจะถึงขั้นต้องล้างไพ่ใหม่

แต่โจทก์ใญ่ข้อนี้ ไม่ใช่เป็นโจทก์ที่รัฐบาลจะต้องขบคิดให้หนัก หาแต่เป็น คมช.ซึ่งทำการปฏิวัติยึดอำนาจรัฐบาลทักษิณ มาต่างหากที่ต้องนั่งกุมขมับ

เพราะต้องตอบคำถามตัวเองให้ได้ก่อนว่า ที่หม่อมอุ๋ย หยิบยกมาอ้างเป็นเหตุผลในการลาออกนั้น ใช่ปัญหาที่ก่อผลทางลบให้กับภาพรวมของประเทศหรือไม่ ?

ถ้าใช่ คมช.จะทำอย่างไรกับปัญหาที่ว่า ?

หรือปล่อยให้มีการสรรหารัฐมนตรีคลังคนใหม่ที่มีน้ำอดน้ำทนกับแรงเสียดทานที่คนอย่างหม่อมอุ๋ย รับไม่ได้ เข้ามารับตำแหน่ง แล้วปล่อยให้การบริหารประเทศ "ถูไถ" กันต่อไป

คมช.ยังมีทางเลือกอื่นอีกไหม ?



ขอขอบคุณ : ข้อมูลข่าวที่มีคุณภาพ

จาก หนังสือพิมพ์คม.ชัด.ลึก.

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์