คมช.แจ้งตร.เช็กบิล จาตุรนต์ เดินสายขัดกม.

พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษก คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (ครม.) แถลงผลการประชุม คมช. ที่มี พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะ ประธาน คมช. เป็นประธานการประชุม ที่กองบัญชาการกองทัพบก วานนี้ (27 ก.พ.)

ถึงการดำเนินการของ คมช. ต่อการเคลื่อนไหวทางการเมืองของนายจาตุรนต์ ฉายแสง รักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ว่า คมช.ได้พิจารณาแล้วเห็นว่าเป็นการกระทำที่เข้าข่ายละเมิดคำสั่ง คปค.ฉบับที่ 15 และ 27 ห้ามพรรคการเมืองดำเนินกิจกรรมทางการเมือง และมีมติว่าต้องดำเนินการตามกฎหมาย

โดยอาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ประธาน คมช.ได้ทำหนังสือถึง พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เพื่อประสานขอให้ 3 หน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องโดยตรงคือ

กระทรวงมหาดไทย
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) กกต. และ
กอ.รมน.

ดำเนินการทางกฎหมายกับนายจาตุรนต์ส่วนศาลจะตัดสินอย่างไร

มีโทษถึงขั้นไหนก็ว่าตามกระบวนการ และฝ่ายที่รับผิดชอบต้องป้องกันไม่ให้เรื่องลักษณะนี้เกิดขึ้นอีก คมช.เห็นว่าการลงไปพบปะกับประชาชน เป็นการขัดประกาศ คปค. และอาจมีผลต่อความไม่สงบเรียบร้อยในวันข้างหน้า ขณะนี้ไม่ใช่เวลาทำกิจกรรมการเมืองของพรรคการเมืองเต็มรูปแบบ

พ.อ.สรรเสริญกล่าวว่า ขอให้นายจาตุรนต์และสมาชิกพรรคไทยรักไทยหยุดดำเนินการใดๆ ถ้าไม่หยุดคงต้องให้ กกต.ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมืองรวบรวมข้อมูล แล้วส่งให้อัยการสูงสุดร้องต่อตุลาการศาลรัฐธรรมนูญต่อไป ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 66 (4) และ 67 เมื่อถามว่า จะตักเตือนก่อนหรือไม่

พ.อ.สรรเสริญตอบว่า ไม่เพราะถือว่ากระทำผิดไปแล้ว ที่จริงเรามีช่องทางให้เรียบร้อยแต่ไม่เดิน อยากจะเอาชนะคะคานกัน ตรงนี้ไม่ได้สร้างความรู้สึกสมานฉันท์ ก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย เมื่อถามว่า ตำรวจสามารถจับกุมนายจาตุรนต์ ได้เลยใช่หรือไม่

พ.อ.สรรเสริญตอบว่า เป็นดุลพินิจของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส รักษาการ ผบ.ตร. ที่คงรู้ว่า ตำรวจต้องทำอะไร หากไม่ทำจะเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่

นอกจากนี้ พล.อ.วินัย ภัททิยกุล เลขาธิการ คมช. จะทำหนังสือ 3 ฉบับถึง กกต. สตช. และกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้แต่ละส่วนดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ที่มีอยู่ หากนายจาตุรนต์ยังไม่เลิกเคลื่อนไหว กกต.ก็จะรวบรวมข้อมูลหลักฐานดำเนินการต่อไป หากมีการยุบพรรคก็จะมีผลกับนายจาตุรนต์ที่ต้องหยุดเล่นการเมือง 5 ปี

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส รักษาการ ผบ.ตร. กล่าวว่า ยังไม่ทราบและยังไม่มีคำสั่งมาถึง แต่ในฐานะเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีการติดตามพฤติกรรมของนายจาตุรนต์และพรรคพวก ถ้าหากมีการกระทำที่ฝ่าฝืนต่อกฎหมายต้องดำเนินคดีตามหน้าที่ เพราะตำรวจมีหน้าที่รักษากฎหมายทุกเรื่อง ถ้าเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายต้องดำเนินการไป ผู้สื่อข่าวถามว่า ทาง คมช.ได้ส่งเรื่องมาแล้วหรือไม่

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ตอบว่า ไม่ได้ส่ง แต่เป็นเรื่องที่เห็นว่า เป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายต้องทำก็ต้องทำไป ไม่เช่นนั้นหากมีผู้ทำผิดกฎหมายแล้ว ตำรวจไม่ดำเนินการ ก็จะมีผู้มาแจ้งความว่าตำรวจไม่ดำเนินการ ละเว้นการปฏิบัติหรือเลือกปฏิบัติ ทาง คมช.ไม่ได้มีคำสั่งใดมาเป็นพิเศษ ทางตำรวจจะตรวจดูเอง เพราะเป็นหน้าที่ของตำรวจ เพราะตำรวจยุคนี้ต้องทำทุกอย่าง ไม่ต้องคอยให้ผู้บังคับบัญชาสั่ง ผู้สื่อข่าวถามว่า ต้องมีการตั้ง คณะทำงานขึ้นมาทำคดีนี้หรือไม่

รักษาการ ผบ.ตร.ตอบว่า คดีนี้เป็นคดีใหญ่อาจต้องตั้งนายตำรวจระดับรอง ผบ.ตร.มาดูแลรับผิดชอบ ผู้สื่อข่าวถามว่า เกรงจะถูกแรงกดดันบีบคั้นหรือไม่ รักษาการ ผบ.ตร.ย้อนกลับว่า บีบใคร ไม่ เป็นไร รับผิดชอบอยู่ ส่วนจะมอบหมายให้ใครเป็นผู้รับผิดชอบ คดี ขอพิจารณาเนื้อหาสาระก่อน แล้วจึงจะแต่งตั้งบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ ไม่ติดภารกิจมาก

ทางด้านนายจาตุรนต์ ฉายแสง รักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ปฏิเสธที่จะให้ความเห็น กรณีที่ที่ประชุม คมช. มีมติให้ดำเนินคดีฐานขัดคำสั่งประกาศ คปค. ฉบับที่ 15 และ 27 ที่ห้ามทำกิจกรรมทางการเมือง โดย ระบุเพียงว่า ยังไม่ทราบรายละเอียดทั้งหมด จึงไม่อยากให้ความเห็น แต่ในวันที่ 28 ก.พ.นี้จะแถลงเรื่องดังกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายจาตุรนต์จะเปิดแถลงข่าวที่พรรคไทยรักไทย ในวันที่ 28 ก.พ.นี้ เวลา 10.00 น. โดยจะยังยืนยันกำหนดการที่จะเดินทางไปพบประชาชน และทำพิธีทางศาสนาที่ภาคเหนือ ใน จ.เชียงใหม่และลำพูน ในช่วงวันที่ 3-4 มี.ค. เหมือนเช่นเดิม

อย่างไรก็ตาม เมื่อนายจาตุรนต์ทราบมติของ คมช. ที่สั่งการให้ดำเนินคดี ก็ได้หารือกับทีมงาน โดยไม่มีท่าทีตื่นตระหนกแต่อย่างใดโดยเห็นว่า หาก คมช.จะมีการดำเนินการอย่างไร ก็คงต้องว่ากันไปตามกฎหมาย โดยนายจาตุรนต์ยังกล่าวติดตลกกับทีมงานด้วยว่า "คงต้องช่วยผมระดมทุนกันไว้ก่อน หากถูกจับติดคุกจะได้ประกันตัวได้"

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ คมช.จะดำเนินการกับนายจาตุรนต์ ฉายแสง รักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ที่เดินสายพบปะกับประชาชนในพื้นที่ภาคอีสานว่า นับวันคำสั่ง คปค. ฉบับที่ 15 และ 27 ที่ห้ามพรรคการเมืองทำกิจกรรมทางการเมือง

จะเป็นปัญหากับรัฐบาลและ คมช.มากกว่า อยาก ให้รัฐบาลและ คมช.เข้าใจธรรมชาติของการเมือง และยอมรับว่า หากเราจะเดินกลับเข้าสู่ระบอบประชาธิปไตย การเคลื่อนไหวทางการเมืองถือเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ยาก และขอยืนยันจุดยืนเดิมว่า มั่นใจว่าการยกเลิกคำสั่ง คปค. จะไม่มีปัญหาต่อความมั่นคง หากรัฐบาลและ คมช.บังคับใช้กฎหมาย ที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง อย่างจริงจังและมีประสิทธิภาพ

ดังนั้น ทั้งรัฐบาลและ คมช. น่าจะทบทวนตรงนี้ได้แล้ว ส่วนกรณีที่ พล.อ.บุญรอด สมทัศน์ รมว. กลาโหม ระบุว่า ในเดือน มี.ค.-เม.ย.นี้ สถานการณ์ การเมืองจะร้อนแรงขึ้นนั้น ได้เคยเตือนเอาไว้ว่าจะมีปัญหาความขัดแย้งได้ และกรณีคำสั่ง คปค.ก็เป็นเงื่อนไขหนึ่ง โดยเชื่อว่าหากรัฐบาลไม่ผ่อนคลายในเรื่องสิทธิเสรีภาพ จะทำให้มีความอึดอัดในตัวประชาชนมากขึ้น และรูปแบบการท้าทายจะมีมากขึ้น

นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้ พ.ต.ท.ทักษิณพำนักอยู่ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ และได้รับการติดต่อจากสถาบันไอไอเอสเอส ประเทศสหรัฐอเมริกา ให้ไปบรรยายพิเศษเรื่องประชาธิปไตย

นอกจากนั้น ยังมีสถาบันอื่นๆติดต่อให้ พ.ต.ท.ทักษิณไปบรรยายพิเศษเกี่ยวกับประชาธิปไตย และภาพรวมทางการเมืองในเอเชียอาคเนย์ด้วย แต่ พ.ต.ท.ทักษิณยังไม่ได้ตอบรับ เวลานี้ท่านยังไม่อยากตอบรับอะไร สิ่งใดที่จะเป็นปัญหาเราก็ไม่อยากทำ เพราะเวลานี้คะแนนนิยมกำลังขึ้นอยู่ ยืนยันเราไม่ได้มีเป้าหมายทางการเมือง

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังมีสื่อมวลชนของอังกฤษหลายแห่งติดต่อขอสัมภาษณ์ อาทิ รอยเตอร์ บีบีซีและไฟแนลเชี่ยล ไทม์ แต่ พ.ต.ท.ทักษิณก็ยังไม่ได้ตอบตกลง ส่วนกรณีที่มีบางคนอ้างว่า พ.ต.ท.ทักษิณจ่ายเงินว่าจ้างสื่อเพื่อให้ได้เป็นข่าวและขึ้นปก เช่น นิตยสารไทม์นั้น สื่อขนาดใหญ่แบบนั้นคงไม่มีใครไปซื้อเขาได้ ถ้าคิดว่าซื้อได้ก็อยากให้คนที่พูด เช่น นายสมเกียรติ อ่อนวิมล ลองไปซื้อดู ถ้าทำได้ก็พร้อมจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายให้

จาก หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ