'ราตรี' พบ 'นายกฯ' ขอบคุณที่ช่วยประสานจนพ้นคุก'กัมพูชา'วอนช่วย'วีระ'ต่อ ยันอุดมการณ์ยังเหมือนเดิม
น.ส.ราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ และ คณะประกอบด้วย กรรมการสิทธิมนุษยชน แพทย์ที่ให้การดูแลรักษา ล่ามของไทยที่ประสานงานกับกัมพูชา ได้เดินทางเข้าพบ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ตึกไทยคูู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล เพื่อแสดงความขอบคุณที่รัฐบาลได้ประสานกับทางการกัมพูชาจนได้รับการปล่อยตัว
น.ส.ราตรี กล่าวว่า มาครั้งนี้เพื่อนี้เพื่อต้องการขอบคุณนายกฯ ที่ได้ให้การช่วยเหลือให้ได้รับการปล่อยตัว ถือเป็นนิมิตหมายอันดีที่นายกฯจะได้ดูแลผลประโยชน์ของประเทศชาติต่อไป น.ส.ราตรี ได้กล่าวร้องเรียนกับนายกรัฐมนตรีว่า นายวีระ สมความคิด ซึ่งยังรับโทษอยู่ในกัมพูชานั้นถูกละเมิดสิทธิในการรับข่าวสารข้อมูล โดยไม่ได้รับอนุญาตให้อ่านหนังสือหรือรับความรู้อะไรเลย แม้แต่หนังสือที่จะช่วยผ่อนคลายจิตใจ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ถือว่าเป็นสิทธิที่นักโทษควรจะได้รับ
ด้าน น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ดีใจที่ได้พบกับ น.ส.ราตรี ซึ่งการเป็นผู้หญิงด้วยกันทำให้ตนเข้าใจในความลำบาก อย่างไรก็ตามเรื่องดังกล่าวถือเป็นหน้าที่ของรัฐบาลอยู่แล้วที่จะให้ความช่วยเหลือประชาชน สำหรับการหารือกับทางกัมพูชา รัฐบาลก็ได้มีการดำเนินการเจรจาตั้งแต่ครั้งแรกแล้ว แต่ก็ดีใจที่ น.ส.ราตรี ได้กลับบ้าน จากนี้คงหมดทุกข์หมดโศก หากมีอะไรที่ต้องการให้รัฐบาลช่วยเหลือเราก็ยินดี สำหรับกรณีของนายวีระ ซึ่งยังอยู่ในเรือนจำกัมพูชา เราได้ยื่นเรื่องขอไปแล้วโดยขอทั้งสองรูปแบบ ทั้งการขอลดหย่อนโทษซึ่งทางกัมพูชาก็บอกว่า ต้องรอเฉพาะช่วงที่มีเทศกาล รวมทั้งการนำตัวกลับมารับโทษที่ไทย ซึ่งทางกัมพูชาระบุว่าต้องขอดูฐานความผิดต่างๆด้วย
"ขอเรียนว่าเราทำอย่างเต็มที่ทุกครั้งที่มีโอกาสอยู่แล้ว แต่ระหว่างนี้ก็ฝากไว้ว่ามีสิ่งใดให้เราช่วยเหลือสำหรับนายวีระ โดยเท่าที่ทราบคือ ทางฑูตที่ประจำอยู่กัมพูชาได้ประสานงานแล้ว ซึ่งตนก็ขอฟังข้อเท็จจริงจาก น.ส.ราตรี ด้วย เราจะได้มารับฟังเพื่อปรับปรุงประสานงานต่อไป ซึ่งก็จะนำไปสู่หลักการในการช่วยเหลือคนไทยอื่นๆ ด้วย รวมถึงจะทำให้กระทรวงการต่างประเทศทำงานอย่างใกล้ชิดขึ้นและเข้าใจกันมากขึ้น" น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าว
ต่อมา น.ส.ราตรี ให้สัมภาษณ์ ว่า เรามาขอบคุณที่นายกฯได้ช่วยเหลือประชาชนและขอให้นายกฯได้ช่วยดูแลผลประโยชน์ทางการเมือง เมื่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นผู้นำประเทศอยู่ในขณะนี้ ก็เลยมาขอให้ใช้ตำแหน่งหน้าที่ให้เต็มที่ และที่ผ่านมาเราก็ได้นำเสนอมาโดยตลอด โดยนายกฯรับปากว่า จะให้ความช่วยเหลือ และดูแลผลประโยชน์ของประเทศอย่างเต็มที่ การเข้าพบนายกฯ วันนี้เพื่อหารือการให้ความช่วยเหลือ นายวีระ โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องนี้ได้มีการเสนอแก่ทางกัมพูชาไปแล้ว นอกจากนี้ยังมีการหารือกรณีให้มีการโอนตัวนายวีระกลับมารับโทษที่ประเทศไทยด้วย เพราะวันนี้นายวีระมีสิทธิ์ในการโอนตัวกลับประเทศเพราะถือว่ารับโทษ1 ใน 3 แล้ว
“กรณีของนายวีระหลังจากที่ได้ลดโทษ 6 เดือน ก็ทำให้อยู่ในเกณฑ์ 1 ใน 3 ซึ่งเป็นสิทธิ์ตามสนธิสัญญาที่ตกลงในเรื่องของการโอนตัวอยู่แล้ว ไม่เกี่ยวกับการลดโทษหรืออภัยโทษ และนายวีระเองก็อยากจะได้โอกาสนี้มากกว่าการอภัยโทษ คือ การได้รับการโอนตัวกลับมาได้รับโทษที่เมืองไทย”น.ส.ราตรี กล่าว ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกฯ พูดถึงความเป็นไปได้หรือไม่ เมื่อนายวีระมีสิทธิ์ในการโอนตัวกลับมารับโทษในเมืองไทย น.ส.ราตรี กล่าวว่า นายกฯไม่ได้รับปาก แต่บอกว่าจะพยายามให้ถึงที่สุด
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า การที่ต้องติดคุกที่ประเทศกัมพูชานั้น รู้สึกว่าถูกหลอกหรือไม่ น.ส.ราตรี กล่าวว่า เริ่มต้นคงไม่ใช่เรื่องของการถูกหลอก แต่เหมือนกับว่าเมื่อเกิดเรื่องขึ้นมาแล้ว เรากลายเป็นเหยื่อทางการเมืองของฝ่ายกัมพูชา เพราะเราเดินทางไปในพื้นที่ของประเทศไทย ไม่ได้เข้าไปในประเทศกัมพูชา และยังมีหลักฐานยืนยันได้ รัฐบาลขณะนั้นมีหน้าต้องนำหลักฐานมายืนยันแต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไร ยืนยันว่า วันนั้นเราเข้าไปในเขตแดนของประเทศไทย ไม่ใช่แม้พื้นที่ทับซ้อน และพื้นที่ดังกล่าวคนไทยก็มีสิทธิ์
น.ส.ราตรี กล่าวต่ออีกว่า ในวันที่เดินทางกลับที่มีนายพนิช วิกิตเศรษฐ์ อดีต สส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ เดินทางไปรับนั้นไม่ได้มีการคุยอะไรกันมากเพียงแค่แสดงความยินดีก็เท่านั้น อย่างไรก็ตาม เมื่อถามว่า กลับมาแล้วจะมีการออกมาเคลื่อนไหวอีกหรือไม่ น.ส.ราตรี กล่าวว่า บอกได้คำเดียวว่า อุดมการณ์ไม่ลดลง ส่วนเรื่องจะคุ้มค่าหรือไม่ยังไม่ได้คาดหวัง เพียงแต่รู้ว่าทำหน้าที่พลเมืองเต็มที่ เมื่อถามต่อว่า หากเกิดอะไรขึ้นไม่กลัวว่าโทษจะหนักว่าเดิมหรือไม่ น.ส.ราตรี กล่าวว่า ตนไม่ได้บอกว่าจะเดินไปให้เขาจับอีก แต่ยังบอกไม่ได้ว่าจะมีการเคลื่อนไหวอย่างไร