ปชป.จี้รัฐบาล-มท.-กทม.ยกเลิกจัดซื้อรถดับเพลิงฉาว

เมื่อวันที่ 25 ก.พ.ที่ผ่านมา คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ(คตส.) ได้สรุปผลสอบสวนโครงการจัดซื้อรถและเรือดับเพลิงของสำนักบรรเทาสาธารณภัย กทม.ว่าผู้ที่มีส่วนกระทำผิดในเรื่องดังกล่าวจำนวน 5 ราย ได้แก่

1.นายโภคิน พลกุล อดีต รมว.มหาดไทย

2.นายประชา มาลีนนท์ อดีต รมช. มหาดไทย

3.นายสมศักดิ์ คุณเงิน อดีตเลขานุการ รมช.มหาดไทย

4.นายสมัคร สุนทรเวช อดีตผู้ว่าฯกทม. และ

5.พล.ต.ต.อธิลักษณ์ ตันชูเกียรติ อดีต ผอ.สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกทม.

ฐานกระทำผิดเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

ประกาศข้อบัญญัติ กทม. และมติคณะรัฐมนตรี จนมีการซื้อสินค้าราคาสูงเกินจริง เกิดความเสียหายประมาณ 1,900 ล้านบาท ดังนั้น ตนขอเรียกร้องให้รัฐบาล กระทรวงมหาดไทย และ กทม.ยกเลิกโครงการนี้ เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายต่อประเทศชาติต่อไป เพราะถ้ายังมีการดำเนินการต่อไป จะทำให้รัฐเสียหายเพิ่มขึ้นอีก รวมทั้งสิ้น 3,300 ล้านบาท เนื่องจากมีการจ่ายภาษีศุลกากร และภาษีมูลค่าเพิ่ม

ตนจะเดินหน้านำเอกสารผลสรุปการชี้มูลความผิดนี้ของ คตส. เพื่อมอบให้กับเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย และเอกอัครราชทูตออสเตรีย ประจำประเทศไทย เพื่อให้มีการตรวจสอบถึงกระบวนการทุจริตที่เกี่ยวข้องกับการซื้อรถดังเพลิงในครั้งนี้

เนื่องจาก บริษัท สไตเออร์ เดมเลอร์ พุช จำกัด

ที่เป็นผู้จัดจำหน่ายรถดับเพลิงที่มีการทุจริต และเป็นบริษัทที่ตั้งอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกาและออสเตรีย เนื่องจาก บริษัทนี้มีผู้ถือหุ้นใหญ่คือ บริษัท เจเนอรัล ไดนามิกส์ ของสหรัฐฯ และขณะนี้ ตนได้ทราบว่าทางการสหรัฐฯกำลังมีการสอบสวนบริษัท เจเนอรัล ไดนามิกส์ ในเรื่องนี้ด้วย เหมือนกับการจัดซื้อเครื่องซีทีเอ็กซ์

นายยุทธพงศ์ กล่าวว่า ปัญหาทั้งหมดเกิดขึ้นจากการที่นายสมัคร ได้เซ็นสัญญา จนทำให้มีการจัดซื้อรถดับเพลิงกับบริษัท สไตเออร์ จำกัด ของออสเตรีย แต่หากนายสมัครมั่นใจว่าตัวเองบริสุทธิ์และมีข้อมูลหลักฐานชี้แจงต่อสาธารณะชนว่าผลสรุปนี้ไม่ถูกต้อง ก็ขอให้นายสมัครนำมาเสนอผ่านสื่อ ไม่ว่าจะเป็นทางวิทยุหรือโทรทัศน์ทันที จะเก็บข้อมูลไว้ทำไม และตนพร้อมเผชิญหน้ากับนายสมัครโดยตรง เพื่อนำข้อมูลที่มีอยู่มาชี้แจงถึงกระบวนการทุจริตทั้งหมด

นายยุทธพงศ์ กล่าวว่า คณะกรรมการ 7 ฝ่ายที่นายอารีย์ วงษ์อารยะ รมว.มหาดไทย ได้ตั้งขึ้นก็ระบุชัดเจนว่า หาก คตส.ชี้มูลว่าการจัดซื้อดังกล่าวมีการทุจริต ก็ให้ถือว่าการดำเนินการตามสัญญาทั้งหมดเป็นโมฆียะ และไม่ต้องรับผิดชอบ

มองอย่างไรต่อการที่ผลสรุปการสอบสวนของ คตส.ไม่มีชื่อของนายอภิรักษ์ ว่าร่วมกระทำผิด ทั้งที่เป็นผู้เปิดแอลซีในการจัดซื้อนี้

นายยุทธพงศ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ คตส.จะให้คำตอบ ตนไม่ขอให้ความเห็นเรื่องนี้

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์