วาสนา-นาม ให้ปากคำตลก.รธน.คดียุบทรท.

เริ่มขึ้นต้นแล้ว พยานอัยการปากเอก วาสนา - นาม ด้าน พงศ์เทพ เตรียมซักค้านอดีต ปธ.กกต. วิธีส่งเรื่องฟ้อง

นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา หัวหน้าคณะฝ่ายกฎหมายคดียุบพรรค พรรคไทยรักไทยกล่าวว่า

จากการไต่สวนคดีที่ผ่านมา พรรคเรามีโอกาสได้ซักค้านพยานของอัยการ ซึ่งพยานหลายคนที่เราได้ซักค้าน ได้ให้การเหมือนกับที่เคยได้ให้การมาในชั้นต้น ซึ่งตรงนี้ถือว่าเป็นประโยชน์ ต่อพรรค ทรท. ที่เราพยายามแสดงให้เห็นว่า พยานซึ่งเป็นผู้สมัคร ส.ส. หลายคนไปสมัครรับเลือกตั้งเอง เพราะอยากเป็น ส.ส. และ

ฝ่ายกฎหมายของเราก็ได้พยายามหักล้างข้อกล่าวหา ว่าพยานพูดไม่จริงอย่างไร โดยเฉพาะเรื่องที่มีความสำคัญ โดยเฉพาะในกรณีพยานเอกสาร รูปถ่าย และวิดีโอที่พยายามนำมาประกอบให้ตุลาการได้เห็นอย่างชัดเจน

พยานที่สืบปากคำในวันนี้ ไม่ใช่พยานซึ่งเป็นผู้สอบสวนคดีด้วยตัวเอง เช่น กรณี นายนาม ยิ้มแย้ม ก็เป็นอดีตประธานคณะอนุกรรมการสืบสวนสอบสวนฯ ซึ่งเรื่องทั้งหมด นายนามฟังคำสรุปจากฝ่ายสืบสวน และทำเสนอความเห็นส่งไปยังประธาน กกต.ในเวลานั้น

การสืบสวนสอบสวนที่ผ่านมาของคณะอนุกรรมการได้ทำถูกต้อง เป็นไปตามระเบียบหรือไม่ และประธาน กกต. ทำไมถึงส่งเรื่องนี้ไปยังอัยการ เพราะเหตุใด เพราะเรื่องนี้มีข้อเท็จจริงหลายอย่างที่ขัดกัน ซึ่งประเด็นต่าง ๆ เหล่านี้ ฝ่ายกฎหมายของไทยรักไทยจะนำไปซักถามในการพิจารณาในวันนี้

นายพงศ์เทพ กล่าวว่า จะเริ่มสืบพยานที่เป็นฝ่ายเรา ตั้งแต่วันที่ 6 มีนาคม เป็นต้นไป โดยพยานของพรรคที่ได้กำหนดไว้ ได้แก่ อดีตหัวหน้าพรรค พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการหัวหน้าพรรค นายจาตุรนต์ ฉายแสง ตัวนายพงศ์เทพเอง และรองเลขาธิการพรรค นายแพทย์พรหมมินทร์ เลิศสุริย์เดช

นายพงศ์เทพกล่าวว่า ได้เสนอบันทึกถ้อยคำของพยานทั้ง 4 ปากให้ตุลาการรัฐธรรมนูญเรียบร้อยแล้ว ฝ่ายเราเองได้เตรียมการไว้ทุกทาง ที่พยานจะมาเบิกความ

คณะตุลาการ และอัยการต้องการให้พยานมาให้ปากคำ พยานจึงจะต้องเดินทางเบิกความต่อหน้าคณะตุลาการ แต่หากตุลาการและอัยการไม่ติดใจในบันทึกถ้อยคำที่ทางพรรคจัดส่งมา ก็จะทำให้ทางพรรคไม่ลำบากที่จะนำพยานเข้ามา

แต่ถ้าหากพยานอยู่ในเมืองไทยก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เดินทางมาที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญแล้วไม่ถาม ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ส่วนการเบิกความด้วยวิธีวิดีโอ คอนเฟอเรนซ์ ก็เป็นอีกช่องทางหนึ่ง ที่พยานจะสามารถให้ปากคำต่อคณะตุลาการได้

เพราะพยาน (พ.ต.ท.ทักษิณ) อยู่ไกล ไม่ได้อยู่ในประเทศ โดยปกติแล้ว หากจะไต่สวนเพิ่ม ก็จะต้องให้พยานเดินทางมาที่ที่ทำการของตุลาการ แต่กรณีนี้ อาจให้ใช้ วิดีโอ คอนเฟอเรนซ์ก็ได้ อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาสัญญาณอาจไม่ดี ภาพหรือเสียงขาดหายไป แม้จะถ่ายทอดจากในประเทศไทยก็ตามนายพงศ์เทพกล่าว

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก