คตส.ตั้งกก.ไต่สวนฟัน ´โภคิน-ประชา-สมัคร´

คตส.ตั้งกก.ไต่สวนฟัน ´โภคิน-ประชา-สมัคร´


เมื่อวันที่ 26 ก.พ. มีการประชุมคณะกรรมการ คตส. เพื่อรับความคืบหน้าการทำงานของคณะอนุกรรมการชุดต่างๆ ภายหลังการประชุมนายสัก กอแสงเรือง โฆษกคตส. และนายอุดม เฟื่องฟุ้ง กรรมการ คตส. ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการไต่สวนกรณีซื้อขายที่ดินย่านรัชดาของ คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ร่วมกันแถลง

โดยนายอุดมกล่าวว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบชี้มูลความผิด พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร คู่สมรส เพิ่มเติมจากที่เคยได้ชี้มูลไปแล้ว โดยให้แจ้งข้อกล่าวหาว่ามีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 152

เนื่องจากมีพฤติการณ์ เข้าไปมีส่วนได้เสียเพื่อผลประโยชน์สำหรับตัวเอง เป็นการแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบด้วยกฎหมาย และให้มีความผิดตามมาตรา 157


แฉพบพิรุธซื้อขายที่ดินรัชดา


นายอุดมกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ยังมีความผิดอาญา มาตรา 83 ในฐานะตัวการร่วม เพราะอดีตนายกฯเซ็นยินยอม จึงเกิดการซื้อขายขึ้น ทางกฎหมายถือว่ามีเจตนาร่วมมาตรา 86 ในฐานะผู้สนับสนุน

เนื่องจากคู่สมรส ไม่ได้เป็นข้าราชการ มาตรา 90 และ 91 ถือว่าเป็นความผิดต่างกรรมต่างวาระ มีโทษแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับศาลจะพิจารณาว่าจะแยกโทษหรือรวมโทษ และมาตรา 152 และ 157 ตามที่ระบุไปเบื้องต้นแล้ว อย่างไรก็ตามที่ คตส.พบข้อมูลล่าสุดโดยมีเจ้าพนักงานที่ดินไม่ทราบชื่อส่งเอกสารมาให้เป็นบันทึกท้ายบัญชีทรัพย์สินรอการขาย

โดยเขียนระบุว่า ขอให้นาย ก. (นามสมมติ) ดำเนินการ ตามระเบียบของกรมที่ดิน หวังว่าคงจะไม่มีกรณีเช่นนี้เกิดขึ้นอีก ทำให้ คตส.เชื่อว่าในการซื้อที่ดินดังกล่าวต้องมีเหตุผิดปกติ ไม่เช่นนั้นเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกรมที่ดินคงจะไม่ทำบันทึกย้ำไว้ในเอกสารโฉนดที่ดินที่ออกใหม่ 4 ฉบับ สำหรับหนังสือชี้มูลความผิดของ คตส.ในคดีที่ดินฯครั้งนี้จะส่งไปให้ พ.ต.ท.ทักษิณในวันที่ 27 ก.พ.นี้


เชือด "โภคิน-สมัคร-ประชา"


นายสักกล่าวว่า ที่ประชุมได้พิจารณาผลการตรวจสอบโครงการจัดซื้อรถและเรือดับเพลิงของ กทม. ตามที่คณะอนุกรรมการตรวจสอบฯนำเสนอ โดยมีมติชี้มูลความผิดบุคคลที่เกี่ยวข้อง 5 คน ประกอบด้วย

1. นายโภคิน พลกุล อดีต รมว.มหาดไทย
2. นายประชา มาลีนนท์ อดีต รมช. มหาดไทย
3. นายสมศักดิ์ คุณเงิน อดีตผู้ช่วยเลขานุการ รมว.มหาดไทย
4. นายสมัคร สุนทรเวช อดีตผู้ว่าฯ กทม.
5. พล.ต.ต.อธิลักษณ์ ตันชูเกียรติ อดีต ผอ.สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย

ฐานกระทำผิดประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ในกรณีนายโภคินและนายประชา พร้อมด้วยนายสมศักดิ์สังกัดกระทรวง มหาดไทยและกำกับดูแล กทม. เกี่ยวข้องกับโครงการเริ่มตั้งแต่พบปะปรึกษาหารือโครงการกับเอกอัครราชทูตออสเตรียประจำประเทศไทย

ร่วมกันกำหนดข้อตกลงการจัดซื้อ ที่ระบุบริษัทผู้ขายสินค้าและราคาไว้ล่วงหน้า แล้ว ส่งมอบเรื่องทั้งหมดต่อ กทม. โดยฝ่าฝืนมติ ครม. ข้อบัญญัติ กทม.เรื่องการพัสดุ มีการกำหนดราคาที่สูงเกินจริงอันส่อเจตนาทุจริต จนเกิดความเสียหายแก่ กทม. ประมาณ 1,900 ล้านบาท


แจงเหตุ "อภิรักษ์" หลุดร่างแห


นายสักกล่าวอีกว่า พล.ต.ต.อธิลักษณ์เป็นประธานคณะกรรมการจัดซื้อโดยวิธีพิเศษ ร่วมกับนายสมัครดำเนินเรื่องจัดซื้อจนถึงการลงนามในเอโอยู และลงนามซื้อขายโดยฝ่าฝืนกฎหมาย ส่วน นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯกทม. เข้ามาเกี่ยวข้องในภายหลัง

ส่วนการที่นายอภิรักษ์ เป็นผู้เปิดแอลซีนั้น เป็นเพราะต้องทำตามสัญญาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และยังสั่งการมาจากทางกระทรวงมหาดไทย จึงเห็นว่าไม่มีหลักฐานที่จะชี้มูลความผิดได้ เช่นเดียวกับนายวัฒนา เมืองสุข อดีต รมว.พาณิชย์ ก็ไม่มีหลักฐานที่จะชี้มูลความผิดได้เช่นกัน ขั้นตอนต่อไปจะแจ้งไปยังกระทรวงมหาดไทยให้มาร้องทุกข์กล่าวโทษต่อ คตส.


"สมัคร" ฉุนด่ากลับ คตส.เฮงซวย

นายสมัคร สุนทรเวช อดีตผู้ว่าฯกทม. ให้สัมภาษณ์ ผ่านทางโทรศัพท์ว่า ไม่เข้าใจมติของ คตส.ที่มีผลสรุปออกมาเช่นนี้ ดูแล้วไม่เข้าท่า เพราะที่ผ่านมาไม่เรียกตนไปชี้แจงเลยสักครั้ง แต่กลับเรียกนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯกทม. เข้าให้ข้อมูลนานกว่า 11 ชั่วโมง

จึงอยากถาม คตส. ว่า ทำไมถึงไม่มีชื่อนายอภิรักษ์ ทั้งที่ตนออกมาจากตำแหน่งผู้ว่าฯกทม. ถึงได้มีการเปิดแอลซี "ผมว่ามันเป็นเรื่องเฮงซวย ผมเข้าไปเกี่ยวอะไร ขอดูคำแถลงข่าวก่อน แต่บอกได้เลยว่ามันไม่เข้าท่า"


ป.ป.ช.คุ้ยหลักฐานมัด "พินิจ"


นายวิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายไทกร พลสุวรรณ แกนนำกลุ่มอีสานกู้ชาติยื่นหนังสือให้ตรวจสอบการปกปิดบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของนายพินิจ จารุสมบัติ อดีต รมว.สาธารณสุข เนื่องจากมีการปกปิดทรัพย์สินในชื่อของภรรยาที่ไม่ได้ จดทะเบียนสมรส บุตรที่ไม่บรรลุนิติภาวะ และบุคคลใกล้ชิดว่า

การตรวจสอบต้องดูว่านายพินิจมีความเกี่ยวพันอย่างไร กับทรัพย์สินที่อยู่ในชื่อของผู้อื่นตามที่ถูกร้องมาหรือเป็นนอมินีหรือไม่ กรณีที่นายพินิจไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สินในส่วนของบุตรที่ไม่บรรลุนิติภาวะนั้น จะต้องตรวจสอบว่าเคยจดทะเบียนรับรองบุตรหรือไม่ ถ้ามีการจดทะเบียนรับรองบุตรก็ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินบุตร

ถ้าบุตรไม่มีทรัพย์สินก็ต้องแจ้งว่า มีบุตร แต่ไม่มีทรัพย์สิน ถ้าพบว่านายพินิจได้จดทะเบียนรับรองบุตร แต่ไม่แจ้งต่อ ป.ป.ช.ว่ามีบุตร ก็ถือว่ามีความผิดทันที


สอบปิดบัญชีทรัพย์สินลูก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ฝ่ายตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินของ ป.ป.ช.เข้าไปตรวจสอบหาข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวแล้ว โดยเฉพาะกรณีที่นายพินิจมีบุตรที่ยังไม่ บรรลุนิติภาวะ แต่ไม่ได้ยื่นบัญชีทรัพย์สินของบุตรต่อ ป.ป.ช. เพราะที่ผ่านมานายพินิจแจ้งในบัญชีทรัพย์สินว่าไม่มีบุตร แต่กลับมีผู้นำหลักฐานของนายพินิจในการรับรองบุตร เมื่อครั้งนำบุตรไปเข้าโรงเรียนมาให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบ

โดย ป.ป.ช.กำลังพิจารณาประเด็นนี้อยู่ หากพบว่าเป็นจริง จะเข้าข่ายปกปิดบัญชีทรัพย์สิน มีความผิดตามกฎหมาย ป.ป.ช. มาตรา 295


"เสรี" เปลี่ยนทีมทำคดีกุหลาบแก้ว


พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส รักษาการ ผบ.ตร. กล่าวถึงคดีตรวจสอบบริษัทกุหลาบแก้วเป็นนอมินีของกองทุนเทมาเสกหรือไม่ว่า เพิ่งมารับผิดชอบงานนี้เป็นงานสำคัญ สัปดาห์ที่แล้วได้เรียกพนักงานสืบสวนสอบสวนคดีนี้มาตรวจสอบรายละเอียด พบว่า สาเหตุที่เกิดความล้าช้าเพราะเรื่องการบริหาร

อาทิ พล.ต.ต.วิเชียร สิงห์ปรีชา รอง ผบช.ก. หัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวนคดีนี้ มีปัญหา เรื่องสุขภาพ ไม่สามารถทำงานได้เต็มที่ เพราะฉะนั้นผิด ตั้งแต่การตั้งหัวหน้าพนักงานสอบสวนแล้ว และรองหัวหน้า พนักงานสอบสวนคือ รอง ผบก.ปศท. ซึ่งเคยร่วมทำงาน ในคดีทุจริตลำไยมาแล้ว เห็นว่าทำงานไม่มีประสิทธิภาพ ส่วนพนักงานสอบสวนคนอื่น แต่ละคนต้องรับผิดชอบคดี อีกกว่า 20 คดี ไม่มีเวลามาทำคดีนี้

จึงปรับเปลี่ยนให้ พล.ต.ท.พิจาร จิตติรัตน์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. มาเป็นหัวหน้าพนักงาน สอบสวน เพิ่มพนักงานสอบสวนอีก 2 คน หนึ่งในนั้นคือ พล.ต.ต.จุตติ ธรรมมโนวานิช รักษาราชการแทนรอง ผบช.น. และ พล.ต.ต.วิสุทธิ์ วานิชบุตร รักษาราชการแทน ผบก.ปศท.


ดีเอสไอยอมรับคดีสลับซับซ้อน

นายสุนัย มโนมัยอุดม อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวว่า ในระหว่างที่คณะกรรมการคดีพิเศษยังไม่มีมติว่าจะรับโอนคดีกุหลาบแก้วมาเป็นคดีพิเศษหรือไม่ สตช. มีอำนาจสอบสวนเต็มที่ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้เตรียมข้อมูล ทั้งหมดของบริษัทกุหลาบแก้ว และจะต้องตรวจสอบเส้นทาง การเงินของบริษัทกุหลาบแก้วว่านำเงินจากที่ใดมาซื้อหุ้น เท่าที่ศึกษาเบื้องต้นพบว่าคดีมีความสลับซับซ้อนพอสมควร

นายจรัญ ภักดีธนากุล ปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า ได้นัดคุยกับ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์เป็นการภายใน วันที่ 27 ก.พ.นี้ เพื่อหารือถึงแนวทางในการทำงานร่วมกัน


บี้รัฐบาลล้มสัญญาให้สิงคโปร์ฝึกรบ


นายตวง อันทะไชย สมาชิก สนช. เปิดเผยว่า ได้เสนอญัตติเรื่อง สัญญาเช่าสนามบินอุดรธานี ขอนแก่น และซ้อมรบที่กาญจนบุรี กับนโยบายและแนวทางการแก้ไข ปัญหา ให้ที่ประชุม สนช.พิจารณาในวันที่ 28 ก.พ. เนื่องจากรัฐบาลชุดก่อนทำสัญญากับประเทศสิงคโปร์ในความร่วมมือ ทางการทหาร

โดยให้เช่าสนามบินขอนแก่นเพื่อฝึกบิน สามารถบินเหนือน่านฟ้าไทยได้ ให้เช่าพื้นที่ใน จ.กาญจนบุรี เพื่อการฝึกซ้อมรบ ซ้อมยิงปืน ยิงเครื่องยิงลูกระเบิด เป็น ระยะเวลานาน สัญญาดังกล่าวทำให้สิงคโปร์มีสิทธิเหนือน่านฟ้าและพื้นดินของไทย ในลักษณะการตั้งฐานทัพที่อาศัย สัญญาความร่วมมือทางทหารเป็นฉากบังหน้า

จึงอยากทราบว่า รัฐบาลชุดนี้มีนโยบายจะปรับปรุงแก้ไขทบทวนสัญญา หรือมีนโยบายด้านการทหาร การสื่อสาร ธุรกิจการเงินการธนาคารอย่างไร รวมทั้งอยากให้เปิดเผยข้อเท็จจริงในสัญญาเพื่อเป็นที่ประจักษ์ต่อสาธารณะ



ขอขอบคุณ : ข้อมูลข่าวที่มีคุณภาพ

จาก หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์