ดีเอสไอสอบสร้างโรงพัก ยันก่อสร้างไม่เสร็จ

ดีเอสไอแจงสอบคดีฮั้วประมูลสร้างโรงพักทดแทน-แฟลตตำรวจ ใช้งบกว่า3พันล้าน เผย"บ.พีซีซีฯ"มีสัญญา2ฉบับ ยันก่อสร้างไม่สำเร็จ

นายธานินทร์ เปรมปรีดิ์ ผอ.ศูนย์ป้องกันและปราบปรามทุจริต กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) กล่าวถึงการตรวจสอบโครงการก่อสร้างแฟลตตำรวจ 163 หลัง โดยใช้งบกว่า 3,000 ล้านบาท ตามโครงการไทยเข้มแข็งของรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งพรรคเพื่อไทยร้องให้ตรวจสอบประเด็นความผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยการเสนอราคาต่อหน่วยงานรัฐ(ฮั้วประมูล)ว่า เบื้องต้นต้องทำหนังสือถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) เพื่อขอให้ส่งเอกสารสัญญาต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องมาประกอบการพิจารณาถึงการดำเนินโครงการทั้งหมด เนื่องจากทราบว่าโครงการดังกล่าวเป็นสัญญาคนละฉบับกับโครงการก่อสร้างสถานีตำรวจทดแทน 369 แห่ง แต่เท่าที่มีข้อมูลคาดว่าสัญญาทั้ง 2 ฉบับ น่าจะอนุมัติในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน

ดังนั้นต้องตรวจสอบพยานเอกสารอย่างละเอียดเพื่อให้เห็นข้อเท็จจริงที่ชัดเจน
 
โดยเฉพาะประเด็นการสั่งรวมสัญญาและมีผู้สั่งการอนุมัติที่มีอำนาจเพียงคนเดียว และประเด็นที่บริษัทผู้รับเหมาของสัญญาก่อสร้างทั้ง 2 ฉบับเป็นบริษัทเดียวกันคือบริษัท พีซีซี ดีเวลลอปเม้นท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด ซึ่งประเด็นหลังต้องตรวจสอบเชิงลึก เพราะแม้จะมีต่อสู้ราคาจนชนะการประมูล แต่ด้วยศักยภาพของงานก่อสร้างทั้ง 2 โครงการในระยะเวลาเดียวกันและกระจายอยู่ทั่วประเทศแทบไม่มีความเป็นไปได้ที่การก่อสร้างจะสำเร็จตามสัญญา

นายธานินทร์ กล่าวต่อว่า แฟลตตำรวจทั้ง 163 แห่ง แต่ละแห่งน่าจะมีมูลค่าการก่อสร้างแห่งละ 22 ล้านบาท

ซึ่งรูปแบบการก่อสร้างแฟลตน่าจะเป็นรูปแบบเดียวกัน ในจำนวนนี้บางแห่งสร้างเสร็จแล้ว โดยรวมสัญญาก่อสร้างมีความคืบหน้ากว่า 80% แต่บางส่วนก่อสร้างไม่เสร็จ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้คงต้องรอการส่งเอกสารรายละเอียดที่เกี่ยวข้องจากตร.จึงจะเห็นภาพรวมสัญญาทั้งหมด ขณะเดียวกันดีเอสไออยู่ระหว่างตรวจสอบที่มาที่ไปและการดำเนินกิจการของบริษัทคู่สัญญาที่พบว่ามีการเบิกงบก่อสร้างแต่บางแห่งไม่แล้วเสร็จตามสัญญาว่ามีการแบ่งหุ้น มีผลประกอบการ การทำบัญชีและเสียภาษีอย่างไรซึ่งจะทำให้เห็นความเชื่อมโยงของบุคคลที่เกี่ยวข้อง

ด้านนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ กล่าวถึงกรณีกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร

โต้แย้งว่ากรณีผู้รับเหมาทิ้งงานโครงการโรงพักทดแทนและแฟลตตำรวจว่าเป็นความบกพร่องในการบริหารสัญญา ซึ่งเป็นความรับผิดชอบของพล.ต.อ.เพรียวพันธุ์ ดามาพงศ์ อดีตผบ.ตร. จึงไม่เกี่ยวข้องกับพรรคประชาธิปัตย์ว่า ดีเอสไอเริ่มตรวจสอบทั้ง 2 กรณีจากรากฐานของสัญญา เบื้องต้นมองว่าการบริหารสัญญาจะไม่เป็นปัญหาหากไม่มีสาเหตุทำให้การก่อสร้างไม่แล้วเสร็จ ซึ่งปัญหาดังกล่าวสำนักงานตำรวจแห่งชาติอยู่ระหว่างการพิจารณาบอกเลิกสัญญา

อย่างไรก็ตาม ดีเอสไอได้ทำหนังสือขอให้สตช.ส่งมอบเอกสารหลักฐานเกี่ยวกับโครงการก่อสร้างแฟลตตำรวจมาให้ตรวจสอบทั้งหมด

เพื่อเทียบเคียงว่าทั้ง 2 คดีมีพฤติการณ์ใกล้เคียงกันหรือแตกต่างกันอย่างไร แรกเริ่มโครงการมีการเสนอให้แยกการประมูลเป็น 9 ภูมิภาค หรือเสนอให้รวบการประมูลไว้กับส่วนกลางไว้ตั้งแต่ต้น ทั้งนี้ในวันที่ 1 ก.พ. นี้ ตนพร้อมด้วยนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย จะเดินทางลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ตและกระบี่ เพื่อตรวจสอบที่เกิดเหตุกรณีผู้รับเหมาก่อทิ้งงานก่อสร้างแฟลตตำรวจ 4 แห่ง ได้แก่ สภ.เมืองภูเก็ต สภ.ทุ่งทอง สภ.กระทู้ และสภ.เมืองกระบี่