ปึ้งยันข้อมูลสู้พระวิหารพร้อม

ปึ้งยันข้อมูลสู้พระวิหารพร้อม


“สุรพงษ์”แจงกมธ.มั่นคงฯยันข้อมูลสู้พระวิหารพร้อมแต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ หวั่นกระทบรูปคดี

นพ.เหวง โตจิราการ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ สภาผู้แทนราษฎร ได้มีการพิจารณาศึกษากรณีศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือ (ศาลโลก) จะมีการพิจารณาคำร้องของกัมพูชาเกี่ยวกับข้อพิพาทบริเวณปราสาทพระวิหารในเดือนเม.ย. 2556 ซึ่งที่ประชุมได้เชิญบุคคลที่เกี่ยวข้อง เช่น นายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ต่างประเทศ รวมถึงทีมทนายในการต่อสู้คดีเข้าชี้แจง

นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ได้เตรียมข้อมูลไว้พร้อมแล้ว แต่บางเรื่องไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากอาจกระทบกับรูปคดี ทั้งนี้ ทีมทนายแบ่งออกเป็น 3 ทีม โดยมีที่ปรึกษาด้านข้อกฎหมาย คือ นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ศึกษาธิการ ทำหน้าที่กำกับดูแลอีกครั้ง

นอกจากนี้ นายพงศ์เทพจะพาทีมกฎหมายและสื่อมวลชนเดินทางไปพูดคุยกับทีมกฎหมายต่างประเทศ ที่ประเทศอังกฤษ ในช่วงต้นเดือนก.พ.นี้ ส่วนรายละเอียดและขั้นตอนของการต่อสู้ทางคดีนั้น ต้องรอให้ศาลอนุญาตก่อนจึงจะสามารถนำมาเปิดเผยได้

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ที่ตนระบุว่าประเทศไทยจะมีแต่เจ๊ากับเจ๊งนั้น ตนเป็นคนพูดตรง ก็วิเคราะห์ไปตามข้อกฎหมายใน 4 แนวทาง คือ ศาลมีคำสั่งยกฟ้อง ศาลมีคำสั่งพิพากษายืนตามคำพิพากษาเมื่อปี 2505 ศาลตัดสินตามที่กัมพูชาร้องขอ และไทยอาจสูญเสียดินแดนบางส่วนไป และยอมรับว่า ปากไวไปหน่อย แต่ยืนยันว่าประเทศไทยจะสู้อย่างเต็มที่ เพราะรู้ดีว่าคนไทยรักและหวงแหนทรัพย์สมบัติที่เป็นของประเทศไทย

ขณะที่ นายสามารถ แก้วมีชัย คณะกรรมาธิการ ระบุว่าอยากให้ทุกฝ่ายมาร่วมมือกันเพื่อขอจัดเวทีสัมมนาใหญ่ในเดือนกุมภาพันธ์นี้ โดยในเวทีสัมมนาจะมีการชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น โดยจะนำข้อมูลที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2505 มาชี้แจงให้ประชาชนได้รับรู้ ส่วนกรณีที่คณะกรรมาธิการเป็นห่วงก็ไม่ใช่ในประเด็นของผลการตัดสินแต่ห่วงในเรื่องของข้อมูลที่มีการนำออกมาเปิดเผยว่าจะเป็นข้อเท็จจริงที่ถูกต้องมากน้อยเพียงใด

ด้านนพ.เหวง กล่าวว่า ส่วนตัวอยากให้กัมพูชาถอนเรื่องออกจากศาลโลก เพราะหากเดินหน้าเข้าสู่ศาลโลกก็จะทำให้เกิดรอยร้าวและเกิดความบาดหมางระหว่างทั้ง 2 ประเทศ ส่วนการพิจารณานั้นส่วนตัวเห็นว่าไม่ต้องการให้เกิดความร้าวฉาว ศาลโลกก็มีอำนาจพิจารณาสามารถพิจารณาได้ในกรอบของมาตรา 60 ของกฎหมายอาญาระหว่างประเทศ เท่านั้น แต่เท่าที่ศึกษาข้อมูลของกัมพูชาในคำร้องก็พบว่าน่าจะเกินกรอบของมาตรา 60 

นายอภิชาติ ศักดิเศรษฐ สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กมธ. กล่าวว่า ส่วนตัวไม่ได้ติดใจในเรื่องข้อกฎหมาย แต่กังวลในเรื่องข้อมูลที่จะออกมาแล้วทำให้เกิดปัญหาความขัดแย้งมากขึ้น อีกทั้ง ไม่ควรมีการออกมากล่าวถึงในเรื่องสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตว่าใครทำอะไร และมีการปล่อยปละละเลยจนทำให้เรื่องบานปลายมาจนถึงวันนี้ (30ม.ค.) หรือไม่ แต่สิ่งที่น่ากังวลมากที่สุดขณะนี้ คือ เรื่องของการรับรู้ข่าวสารที่ต้องมีความเท่าเทียมกันของทุกคน ดังนั้น จึงถือเป็นหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศ ต้องทำหน้าที่ในการให้ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องกับประชาชนทุกคน เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกัน

ปึ้งยันข้อมูลสู้พระวิหารพร้อม


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์