เกี่ยวกับทักษะบริหารประเทศอันเป็นเอกลักษณ์ของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร แม้จะถูกโค่นอำนาจด้วยการรัฐประหารตั้งแต่ปี 2549 และปลีกตัวเองออกไปอยู่นอกประเทศไทยเป็นเวลานาน ก็ยังมีบทบาทในการเมืองมาโดยตลอดโดยอาศัยเทคโนโลยีสื่อสารหลากหลายรูปแบบ
ตั้งแต่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาว ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งนายกฯ พ.ต.ท.ทักษิณ ใช้โทรศัพท์มือถือไม่ต่ำกว่า 12 เครื่อง มีเบอร์โทรศัพท์ต่างๆ กันไป สำหรับพูดคุยกับเจ้าหน้าที่หลายระดับ และใช้โปรแกรมสื่อสารต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นวอตส์แอพ, ไลน์ และสไกป์ ยังไม่นับการส่งเอสเอ็มเอส พูดคุยกับสมาชิกพรรคและ โฟนอิน มายังที่ชุมนุม ที่ผู้เขียนบทความตั้งชื่อให้ว่าเป็น ระบอบการปกครองโดยสไกป์ หรือ ประชาภิบาลผ่านเอสเอ็มเอส อย่างไรก็ตาม มีบางโอกาสที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชอบการพบปะพูดคุยตัวต่อตัวมากกว่าสื่อสารทางไกล ทำให้มีนักการเมืองไทยเดินทางไปพบที่นครดูไบ หรือเขตปกครองพิเศษฮ่องกงอยู่บ่อยๆ
ให้สัมภาษณ์ว่า ทางพรรคสามารถติดต่อกับพ.ต.ท.ทักษิณได้ตลอดเวลา มีปัญหาก็โทร.ได้ทันที โลกได้เปลี่ยนไปแล้ว กลายเป็นโลกไร้พรมแดน ต่างจากสมัยร้อยกว่าปีที่แล้วที่ยังต้องใช้โทรเลข พร้อมระบุ การที่พ.ต.ท.ทักษิณอยู่ไกลทำให้มีมุมมองที่เป็นประโยชน์ด้วย คล้ายกับโค้ชที่เฝ้าดูนักเตะเล่นฟุตบอลจากขอบสนาม ขณะนี้ประเทศไทยเสมือนมีนายกฯ 2 คน คนหนึ่งอยู่ในประเทศ อีกคนอยู่นอกประเทศ เป็นความแข็งแกร่งของประเทศไทย