สมัยยิ่งลักษณ์ 1 ล้างบัญชีจ่ายหนี้บุญคุณการเมืองไปทั้งสิ้น 9 คน
สมัยยิ่งลักษณ์ 2 ล้างบัญชีรัฐมนตรีออกไปจากสารบบได้อีก 12 คน
ยุคยิ่งลักษณ์ 3 จึงมีรัฐมนตรีใหม่-เก่าเข้าถวายสัตย์ปฏิญาณรวม 23 คน
ยุคยิ่งลักษณ์ 4 ยังต้องลุ้นว่าจะเป็นปรับเฉพาะรัฐมนตรีพรรคชาติไทยพัฒนา หรืออาจรวมปรับคนในโควตาพรรคเพื่อไทยผสมโรงไปด้วย
เพราะหากพิจารณาตามเกณฑ์การประเมินผลงานสไตล์ "ทักษิณคิด
เพื่อไทยทำ" จะปรับเปลี่ยนกำลังรัฐมนตรีเฉลี่ยทุก 5-6 เดือน
ห้วงเวลานี้จึงเข้าข่ายถึงเวลาเป่านกหวีดเปลี่ยนตัวผู้เล่นในห้องประชุมคณะรัฐมนตรีอีกหน
มีเหตุ-ผลทางการเมืองที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์และคณะต้องปรับคณะรัฐมนตรีอย่างน้อย 3 เหตุผล
เหตุผลแรก การถึงแก่อสัญกรรมของนายชุมพล ศิลปอาชา รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จากพรรคชาติไทยพัฒนา
เหตุผลที่สอง หากวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2556 ซึ่งเป็นวันพิพากษาคดีคุณสมบัติของนายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กรณีสมาชิกวุฒิสภา 24 คน ยื่นคำร้องต่อตุลาการศาลรัฐธรรมนูญให้พิจารณาว่า "ขาด" คุณสมบัติในการดำรงตำแหน่ง เพราะต้องคำพิพากษาจำคุก 2 ปี และให้รอลงอาญา 2 ปี ของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในคดีทุจริตหวยบนดิน ซึ่งศาลนัดฟังคำวินิจฉัยในบ่ายวันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้
กรณีนี้หากผลแห่งคำร้องเป็นไปในทางลบ การปรับคณะรัฐมนตรีในทีมเพื่อไทยก็จะเกิดขึ้น
เหตุผลที่สาม ความพยายามของกลุ่มมัชฌิมาธิปไตย 7 เสียง ที่ถูกจัดสรร-มัดจำไว้ล่วงหน้า เมื่อคราวลงมติ "ไว้วางวางใจ" การอภิปรายไม่ไว้วางใจสมัยที่ผ่านมา โดยมีคำสัญญาจาก "เจ๊ ด." ขาใหญ่ไว้ล่วงหน้าว่า จะเปิดทางให้นายสมศักดิ์ เทพสุทิน เข้าประจำการในคณะรัฐมนตรี พ้นจากสถานภาพ "ฝ่ายค้าง"
เหตุผลสุดท้าย เป็นการใช้บริการเสริมจากคนบ้านเลขที่ 111 ที่ตกค้างอยู่ในพรรคร่วมรัฐบาล และยังไม่มีตำแหน่ง ซึ่งได้เดินทางไปพบกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฤดูหิมะตกหนักกลางกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ทั้ง นายบรรหาร ศิลปอาชา, นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ จากพรรคชาติพัฒนา ที่แสดงความจำนงร่วมทีมเศรษฐกิจของรัฐบาล
แหล่งข่าวในทำเนียบรัฐบาลวิเคราะห์แนวทางการปรับคณะรัฐมนตรีจึงมี 3 สมมติฐาน
สมมติฐานที่ 1 หากปรับเร็ว-ปรับเล็กเพียง 2 ตำแหน่ง คือรองนายกรัฐมนตรี-รัฐมนตรีการท่องเที่ยวและกีฬา ก็จะเป็นไปตามเหตุผลข้อที่ 1
สมมติฐานที่ 2 หากทอดเวลาไปจนถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์ และคำพิพากษาด้านลบเกิดกับนายวราเทพ อาจเกิดการปรับระดับกลาง เพิ่มเป็น 5 ตำแหน่ง คือ 1.รองนายกรัฐมนตรี 2.รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี 3.รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา 4.รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรณีปรับนายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ ออก) 5.รัฐมนตรีโควตากลุ่มมัชฌิมาธิปไตย
สมมติฐานที่ 3 กรณีที่มีการแต่งตั้งรองนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทยให้รักษาการแทนนายชุมพล 2 ตำแหน่งไปก่อน และรอปรับใหญ่ไม่น้อยกว่า 7 ตำแหน่ง โดยมีตำแหน่งที่สุ่มเสี่ยงจะถูก "ถอดปลั๊ก" อาทิ พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รมช.มหาดไทย กรณี นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อเปิดทางให้
นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ เข้ามาดำรงตำแหน่งแทนในโควตาของ นายยงยุทธ ติยะไพรัช
นอกจากนี้อาจมีชื่อ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ ที่อยู่ในข่ายถูกพิจารณาปรับด้วย เพราะในปี 2556 รัฐบาลต้องการเดินหน้าผลงานด้านเศรษฐกิจให้เกิดผลเป็นรูปธรรม แต่ที่ผ่านมา นายบุญทรงยังติดหล่มปัญหาจำนำข้าว จนไม่อาจสร้างผลงานได้
ในส่วนของรายชื่อพรรคร่วมรัฐบาล ในโผของพรรคชาติไทยพัฒนา มีการกล่าวถึงชื่อ นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ ที่ได้เลื่อนขึ้นมาเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อแทนนายชุมพล และกลุ่มข้าราชการที่ใกล้ชิดบ้านจรัญสนิทวงศ์ อาทิ นายสุวัตร สิทธิหล่อ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, นายสมบัติ คุรุพันธ์ ผู้ช่วย รมว.การท่องเที่ยวฯ และ นายสมศักย์ ภูรีศรีศักดิ์ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี
สำหรับคนการเมืองแล้ว กาลเทศะใดไม่สำคัญเท่าช่วงเวลาแห่งการปรับคณะรัฐมนตรี
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
